มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร อัชชะรีฟ
หลังจากที่ราชวงษ์ฟาฏีมีย์ได้สร้างกรุงไคโรขึ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประมาณปี ฮ.ศ. 385/ค.ศ. 969 จึงได้ก่อสร้างมัสยิดขึ้นมาหลังหนึ่ง ชื่อว่า ญามิอ์ อัล-กอฮิเราะห์ เมื่อวันที่ 4 รอมฎอม ฮ.ศ. 359 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี และได้เปิดทำการละหมาดวันศุกร์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 รอมฎอม ฮ.ศ. 371 ต่อมาได้เปิดทำการสอนศาสนาตามมัซฮับชีอะห์เรื่อยมาจนกระทั่งก่อเกิดนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญฟิกฮ์สายชีอะห์ถึง 35 ท่าน แล้วได้แพร่ขยายไปทั่วประเทศอียิปต์ จนกระทั่งประมาณปี ฮ.ศ. 565 ซ่อลาฮุดดีน อัล-อัยยูบีย์ ( صلاح الدين الأيوبي ) ซึ่งเป็นซุนนีย์ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองของอียิปต์จากชีอะห์มาเป็นสายอะห์ลิสซุนนะห์ วั้ลญะมาอะห์ พร้อมกันได้สั่งปิดมัสยิดอัล-กอฮิเราะห์ (อัล-อัซฮัร) ไม่ให้มีการเรียนการสอน การละหมาดวันศุกร์ ไม่ให้มีการปลุกระดมขึ้นคุตบะห์ในมัสยิดแห่งนี้
หลังจากได้สั่งปิดมัสยิดอัล-กอฺฮิเราะห์ (อัล-อัซฮัร) แล้ว ท่านซ่อลาฮุดดีนได้ริเริ่มให้สร้างโรงเรียนขึ้นมาหลังหนึ่งชื่อว่า โรงเรียนอันนาซีรียะห์ สอนเฉพาะภาควิชาสายมัซฮับชาฟีอีอย่างเดียว และสร้างโรงเรียนขึ้นอีกหลังหนึ่งสอนเฉพาะภาควิชาสายมัศฮับฮัมบาลี โดยตั้งชื่อว่า โรงเรียนอัล-กอมฮียะห์ ตั้งอยู่ที่เมืองฟุตตอซ เคียงข้างมัสยิดอัมร์ อิบนุอาศ ( مسجد عمرو بن العاص القاهرة ) ซึ่งเป็นมัสยิดหลังแรกที่สร้างขึ้นในประเทศอียิปต์ โดยสอนที่นั่นจนกระทั่งก่อเกิดนักวิชาการถึง 25 ท่าน จึงย้ายมาสอนที่มัสยิดอัล-กอฮิเราะห์ ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “มัสยิดอัล-อัซฮัร” (ซึ่งเคยถูกปิดมาเป็นเวลายาวนาน) โดยยกเลิกการเรียนการสอนและพิธีการทางศาสนาสายมัซฮับชีอะห์ เปลี่ยนมาเป็นสายมัซฮับอะห์ลิสซุนนะห์ วั้ลญะมาอะห์ ด้วยวิธีการสอนแบบดั้งเดิม คือสอนเป็นนั่งเป็นวงกลมล้อมรอบครูผู้ประสาทวิชาการ โดยไม่มีการสอบข้อเขียน หลังจากสอนจบเล่มแล้วก็เปลี่ยนเล่มอื่น ๆ ใหม่ มีการสร้างอัรรูว๊าก (ห้องที่ต่อเติมจากตัวมัสยิด) เพื่อให้นักเรียนพักอาศัย หรือจะเรียกว่าปอเนาะ ตามคำบ้านเราก็ว่าได้ และได้ปรับปรุงใหม่ จนกระทั่งกลายเปนการสอนระบบโรงเรียนและระบบมหาวิทยาลัย ปัจจุบันมีมากกว่า 50 คณะ วิทยาเขตอีกทั่วประเทศและต่างประเทศอีกหลายประเทศ
อัลอัซฮัรจะยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงต้องต่อสู้อย่างมากมาย ต่อสู้กับฝรั่งเศส อังกฤษ ตุรกี ที่เข้ามายึดครองอียิปต์และพยายามทำลายอิสลาม เผาตำราอิสลาม จับอุละมาอ์(นักปราชญ์มุสลิม)ขังคุก เชคของอัล-อัซฮัรที่เป็นหัวหน้าต้องต่อสู้กับฝรั่งเศษอย่างโชกโชนเกือบเอาชีวิตไม่รอด นอกจากการต่อสู้กับต่างชาติแล้ว ยังต้องต่อสู้กับรัฐบาลที่พยายามจะให้อัล-อัซฮัรทำตามที่รัฐบาลต้องการ โดยเฉพาะประธานาธิบดีนาซเซอร์ที่นิยมลัทธิสังคมนิยม พยายามเอาระบบสังคมนิยมนี้มาสอนที่อัซฮัร แต่ทางอัซฮัรไม่ยินยอมจึงถูกยึดเอาทรัพย์สินวากัฟของอัล-อัซฮัรไปเสียหมด อุลามาอ์มากมายถูกฆ่าตาย บ้างต้องติดคุกติดตาราง เชคของอ้ซฮัรหลายท่านต้องจำลาออกจากตำหลาย บ้างก็ถูกปลดออก แต่อัซฮัรก็ยังคงอยู่ได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ มีนักศึกษาที่มาศึกษาที่อัลฮัรฮัรถึง 106 ประเทศ มีทุนการศึกษาให้เกือบทุกประเทศ ประเทศไทยของเราได้รับทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรปีละ 80 ทุน ทั้งนี้ยังไม่รวมหน่อยงานอื่นอีกหลายหน่อวยงานเช่น มัจลิสอัล-อะอ์ลา ลิชชุอูน อัลอิสลามียะหฺ และองค์กรอื่นๆอีก
ตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยลัยอัล-อัซฮัร |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น