ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างมีประจำเดือน
หลังการมนุษย์ผ่านพ้นประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และการศึกษาวิจัยในยุคนีั ข้อค้นพบทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่พบว่า การมีเพศสัมพันธ์ขณะหญิงมีประจำเดือนเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ช่องคลอดอักเสบ ปากมดลูกอักเสบ ปากมดลูกสึกกร่อน ท่อนำไข่อักเสบ มะเร็งในช่องคลอด มะเร็งในท่อนำไข่ และมะเร็งด้านนอกอวัยวะเพศ ข้อค้นพบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแค่ไปค้นพบและบรรจบพบเจอกับหลักการอิสลามอีกกรณีหนึ่ง
หลักการที่ห้ามเด็ดขาดต่อการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือน ที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาเมื่อพันกว่าปีก่อน อัลลอฮ์กล่าวว่า
وَيَسْأَلُونَكَ عَنِ الْمَحِيضِ ۖ قُلْ هُوَ أَذًى فَاعْتَزِلُوا النِّسَاءَ فِي الْمَحِيضِ ۖ وَلَا تَقْرَبُوهُنَّ حَتَّىٰ يَطْهُرْنَ ۖ فَإِذَا تَطَهَّرْنَ فَأْتُوهُنَّ مِنْ حَيْثُ أَمَرَكُمُ اللَّهُ ۚ إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ التَّوَّابِينَ وَيُحِبُّ الْمُتَطَهِّرِينَ ٢٢٢
"และมีผู้ถามท่านเกี่ยวกับเลือดประจำเดือน จงตอบว่า มันเป็นสิ่งให้โทษ ฉะนั้น จงห่างจากหญิงขณะมีประจำเดือน และอย่าเข้าใกล้นาง จนกว่านางปลอดจากประจำเดือน ครั้นเมื่อนางปลอดจากประจำเดือนแล้ว ก็จงเข้าหานางดังลักษณะที่อัลลอฮ์บัญชาใช้ต่อพวกท่าน แท้จริงอัลลอฮ์รักผู้สำนึกผิด และรักผู้ที่ครองความสะอาด" ( อัลกุรอาน , บะกอเราะฮ์ : 222 )
จากเอกสารทางการแพทย์มหาลัยมหิดลระบุว่า
ในช่วงมีประจำเดือน ร่างกายของผู้หญิงนั้นจะอ่อนแอกว่าปกติ ซึ่งมีสาเหตุมาจากขณะที่มีประจำเดือน ปากมดลูกจะเปิดออก เพื่อให้เลือดและเยื่อบุโพรงมดลูกออกมา ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องคลอดหรือที่มาจากการมีเพศสัมพันธ์มีโอกาสเข้าไปในมดลูกได้ และการที่เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
อีกเหตุผลหนึ่งคือ ภูมิต้านทานของร่างกายในช่วงการมีประจำเดือนต่อแบคทีเรีย รา และไวรัส จะทำงานได้ต่ำลง มีการตีพิมพ์ลงในวารสาร International Journal of Biological & Medical Research โดย Dr.Sadiqua และคณะ ทำการทดลองโดยนำผู้หญิงสุขภาพแข็งแรงมาทั้งหมด 40 คน ช่วงอายุตั้งแต่ 18-25 ปี และผู้หญิงเหล่านี้มีรอบเดือนปกติ (ประมาณ 28 วัน) พวกเขาได้ตรวจจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว ตลอดเดือนของผู้หญิงเหล่านั้น ซึ่งผลปรากฏว่า จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวของผู้หญิงช่วงมีประจำเดือนจะต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ช่วงมีประจำเดือนภูมิคุ้มกันจะลดลง เนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งทำหน้าที่ในระบบภูมิคุ้มกันมีจำนวนลดลงนั่นเอง
อย่างที่ทราบมาแล้วว่าในช่วงที่ผู้หญิงมีประจำเดือน ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง จากการรายงานของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าการฝ่าไฟแดง มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้นอย่างชัดเจนประมาณ 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงที่ผู้หญิงไม่มีประจำเดือน โดยเชื้อที่มีโอกาสติดจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการมีประจำเดือนแบบไม่ได้ป้องกัน ได้แก่ Neisseria gonorrhoeae ก่อโรคหนองใน, Candida albicans ทำให้เกิดเชื้อราในช่องคลอด, Human Immunodeficiency Virus (HIV) เชื้อก่อโรคเอดส์, Human Papilloma Virus (HPV) เชื้อก่อโรคหูดหงอนไก่กับมะเร็งปากมดลูก และ Herpes simplex virus (HSV) เชื้อก่อโรคเริม
โดยปกติการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน ฝ่ายหญิงมีโอกาสติดเชื้อ HIV จากฝ่ายชายได้ 10 ใน 10,000 คน แต่เมื่อมีเลือดและสารคัดหลั่งออกมาอย่างมาก อัตราการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในเลือดยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อ HPV ส่วนโรคเริมเกิดจากเชื้อที่มีการถ่ายทอดง่าย แล้วพบว่ามักกลับเป็นซ้ำมากช่วงมีประจำเดือน เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ผู้ป่วยควรจะงดการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราว
ท้ายที่สุด ดำรัสของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) คือความจริงสูงสุดเสมอ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือจำใจ ทุกคนต้องกลับไปหาหลักการของพระองค์
วัลลอฮฺอะห์ลัมบิศศอวาบ
เอกสารอ้างอิง
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=900
http://www.biomedscidirect.com/download/IJBMRF2012514/13/study of immune
http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/173 ความรู้เรื่องวัคซีนHPV
http://americanpregnancy.org/getting-pregnant/can-get-pregnant-period/
สรีรวิทยาของระบบสืบพันธุ์หญิงและการคุมกำเนิด: สรีรวิทยา ระบบสืบพันธุ์.เพ็ญโฉม พึ่งวิชา: ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ , 2558
#นิติศาสตร์อิสลาม_Islamic_Society_Online
#ปาฏิหาริย์แห่งอิสลาม_Islamic_Society_Online
#มหัศจรรย์อัลกรุอาน_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น