หะดีษเก๊! ผลบุญการละหมาดตะรอเวี๊ยะห์ 30 คืน ในเดือนรอมฎอน
ระบาดหนักทุกปี ระบาดไม่เลิก
โกหกว่าท่านนบีพูด ทั้งๆ ที่นบีไม่ได้พูดไม่ได้สอน
หากไม่หยุดแชร์ ไม่หยุดโพสต์โทษหนัก โกหกต่อท่านนบีโดยเจตนา
หะดีษปลอม!! เรื่องผลบุญ การละหมาดตะรอเวี๊ยะห์ 30 คืน ในเดือนรอมฎอน ระบาดหนัก
เนื่องจากมีการเผยแพร่หะดิษเมาฎูอฺ หมายถึงหะดีษเก๊ ปลอม ทุกคืนของเดือนรอมาฎอน ก่อนทำการละหมาดตะรอเวียะห์ ณ มัสยิดแห่งหนึ่งที่ผู้เขียนร่วมละหมาดตะรอเวียะห์ โดยจะมีโต๊ะครูคนหนึ่งลุกขึ้นยืนประกาศต่อหน้าผู้ทำละหมาดนับร้อย ในช่วงก่อนละหมาดตะรอเวียะห์ร็อกอะฮฺแรกของทุกคืน ในแต่ละคืนจะประกาศผลได้รับผลบุญไม่เหมือนกัน
เช่น ในคืนที่ 4 โต๊ะครูคนนี้กล่าวว่า “คืนนี้คืนที่ 4 ของเดือนรอมาฎอน ใครผู้ใดละหมาดตะรอเวียะห์พร้อมกับโต๊ะอิมาม ครบ 20 ร็อกอะฮฺ อัลลอฮฺได้สัญญาว่า เขาผู้นั้นจะได้รับผลบุญ เหมือนได้อ่านคัมภีร์เตารอต อินยีน ซาบูร และอัลกุรอาน 1 จบ แต่ต้องละหมาดครบนะ หากไม่ครบอัลลอฮจะไม่ตอบแทนผลบุญนั้นแก่เขา
ในคืนที่ 5 ก็ยืนขึ้นหันหน้ามายังผู้จะทำการละหมาดตะรอเวียะฮฺ เช่นคืนที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน แต่แค่เปลี่ยนผลบุญที่จะได้รับ ว่า หากเขาละหมาดครบพร้อมอิมาม เขาจะได้ผลบุญเสมอเหมือนดังคนที่ได้ไปละหมาดในมัสยิดิ้ลฮารอมในนครมักกะห์ กับได้ไปละหมาด ณ มัสยิดมาดีนะห์ และเสมือนได้ไปละหมาดในมันยิดิ้ลอักซอ
และ ในคืนที่ 6 ก็กล่าวเช่นนีมาเรื่อย จนผู้ที่มาละหมาดส่วนใหญ่จะละหมาดตะรอเวียะห์กันจนครบหะดิษที่โต๊ะครูคนนี้กล่าวอ้าง
มีระบุไว้ในหนังสือ “ดุรรอตุลนาซีฮีน” ว่ารายงานจาก ซัยยิดินาอาลี บุตรของอาบีตอลิบ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า
“ท่านบีมูฮำาหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ถูกสาวกเรียนถามถึงศักดิ์ศรีและความสำคัญยิ่งของการละหมาดตะรอเวี๊ยะฮ์ในเดือนรอมฎอน” ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทรงตรัสว่า “มุมินนั้นจะพ้นจากบาปเนื่องในการละหมาดตะรอเวี๊ยะ” คือ
- คืนที่ 1 เขาจะไม่มีบาป เสมือนวันที่มารดาคลอดเขามา
- คืนที่ 2 อัลเลาะห์(ซ.บ.) จะอภัยโทษแก่เขาและบิดามารดาทั้งสองของเขา ถ้าท่านทั้งสองนั้นมีอีหม่านต่อัลเลาะห์ (ซ.บ)
- คืนที่ 3 มาลาอีกัตจะประกาศจากใต้อารัชว่า เจ้าจงเริ่มทำความดีต่อไปได้ ความชั่วที่แล้วมาจะถูกลบเลือนออกหมด เจ้าจงใช้ชีวิตให้ส่วยงามต่อไป
- คืนที่ 4 เขาจะได้กุศลเสมอกับ – เหมือนดังที่ได้อ่านคัมภีร์ เตารอต อินยีน ซาบูร และอัลกรุอ่าน 1 จบ
- คืนที่ 5 เขาจะได้กุศลเสมอเหมือนดังคนที่ได้ไปละหมาดในมัสยิดิ้ลฮารอมในนครมักกะห์ กับได้ไปละหมาด ณ มัสยิดมาดีนะห์ และเสมือนได้ไปละหมาดในมันยิดิ้ลอักซอ ด้วย
- คืนที่ 6 เขาจะได้กุศลเสมอเหมือนดังคนที่ได้ไปตอวาฟที่บัยติ้ลมะฮ์มูด (ซึ่งเป็นกิบลัตของมาลาอีกัตอยู่ตรงกับบัยตุ้ลเลาะห์) และทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้จะขออภัยโทษจากอัลเลาะห์(ซ.บ.) ให้แก่เขา
- คืนที่ 7 เจาจะได้กุศลเสมอเหมือนกับเขาได้เกิดในสมัยท่านนบีมูซา และได้ร่วมในการปราบปรามฟิรอูนและ ฮามาน
- คืนที่ 8 เขาจะได้กุศลเสมอเหมือนดังที่พระองค์อัลเลาะฮ์(ซ.บ.)ได้ทรงประทานให้แก่ท่านนบีอิบรอฮีม
- คืนที่ 9 เขาจะได้กุศลเสมอเหมือนดังที่เขาได้สักกาะระแด่พระองค์อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) เท่ากับท่านนบีมูฮำหมัดที่ได้ทำมา
- คืนที่ 10 อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.)จะบันดาลให้เขาพบแต่ความดีทั้งในโลกนี้และโลกอาคีเราะฮ์
- คืนที่ 11 เวลาเขาจะได้ตายจากโลกนี้ไป เขาจะจากไปเสมือนกับว่าเขาออกจากท้องมารดาแล้วก็ตาย
- คืนที่ 12 เขาจะเกิดมาในวันกียามัตด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มจรัสดุจดวงจันทร์ ณ. วันเพ็ญ
- คืนที่ 13 เขาจะเกิดมาในวันกียามัตด้วยกับความปลอดภัยจากความชั่วร้ายทั้งปวง
- คืนที่ 14 ในวันกียามัตจะมีมาลาอีกัตมาเป็นพยานให้แก่เขา ในการที่เขามาละหมาดตะรอเวี๊ยะฮ์
- คืนที่ 15 บรรดามาลาอีกัตทั้งปวงจะมาให้พรแก่เขาตลอดจนมาลาอีกัตที่กำลังแบกทูนอารัชและกุรซี ก็จะมาอวยพรแด่เขาด้วย
- คืนที่ 16 เขาจะถูกบันทึกว่า เป็นผู้ที่ปลอดภัยจากนรกอเวจีคืนที่ 17 เขาจะได้กุศลเท่ากับกุศลของนบีทั้งปวงรวมกัน
- คืนที่ 18 มาลาอีกัตจะประกาศชื่อของเขาว่า “แน่แท้ พระองค์อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ทรงพึงพระทัยจากเขาและบิดามารดาของเขา”
- คืนที่ 19 อัลเลาะฮ์(ซ.บ.)จะยกฐานันดรอันสูงส่งแก่เขาในสวรรค์ชั้นฟิรเดาซ์
- คืนที่ 20 เขาจะได้รับผลบุญเท่ากับไปตายในสงครามศาสนา และเท่ากับบรรดาคนที่ไม่เคยทำบาปทั้งหลายมาเลย
- คืนที่ 21 อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) จะทรงสร้างบ้านหลังหนึ่งในสวรรค์ไว้ให้แก่เขา และบ้านนั้นเต็มไปด้วยรัศมี
- คืนที่ 22 เขาจะไปปรากฎตนในวันกียามัตด้วยความปลอดภัยปราศจากทุกข์โศก
- คืนที่ 23 อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) ได้เตรียมเมืองเมืองหนึ่งไว้ให้เขาครอง
- คืนที่ 24 อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.)จะเปิดโอกาสรับคำขอของเขา 24 ประการ
- คืนที่ 25 อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) จะทรงยกโทษในกุโบรให้แก่เขา
- คืนที่ 26 อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) จะทรงยกกุศลของเขาให้มีค่าสูงส่งเทียมเท่ากับทำอิบาดะฮ์ 40 ปี
- คืนที่ 27 เขาจะผ่านสะพานซีรอต้อลมุสตากีม มีความไวเหมือนแสง
- คืนที่ 28 อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) จะทรงยกฐานันดรให้แก่เขา 1,000 ขั้น
- คืนที่ 29 อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.)จะทรงประทานอานิสงค์แก่เขาอุปมาดั่งเขาไปทำฮัจยี 1,000 ครั้ง
- คืนที่ 30 อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) จะกล่าวแก่เขาว่า “โอ้ข้าของเรา จงมารับประทานผลไม้ในสวรรค์นี้ และจงอาบน้ำจากแม่น้ำซัลซาบีล ซึ่งเป็นน้ำทิพย์ในสวรรค์ และจงดื่มน้ำอัลเกาซัร เราเป็นเจ้าของ เจ้าเป็นข้าของเรา เจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าสมบูรณ์แล้ว”
หะดีษที่อ้างมาข้างต้นเป็นหะดีษเมาฎูอฺ เป็นหะดีษที่มิได้มีที่มาจากท่านรสูลุลลอฮฺเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่มีใครก็ไม่ทราบที่อุตริแต่งหะดีษขึ้นมาเองแล้วอ้างว่าท่านนบีเป็นผู้ที่พูด , กระทำ หรือยอมรับนั่นเอง
อนึ่ง ข้อพิสูจน์บางประการที่จะจับผิดหะดีษข้างต้น มีดังนี้
- ผลบุญนมาซของการนมาซสุนนะฮฺได้มากกว่าผลบุญการนมาซฟัรฺฎูเสียอีก ซึ่งผลบุญนมาซฟัรฺฎูที่มัสญิดเป็นญะมาอะฮฺได้เพียง 25 หรือ 27 เท่า ส่วนนมาซตะรอวีหฺซึ่งเป็นนมาซสุนนะฮฺได้ผลอย่างมหาศาลมากมายเหลือจะคณานับ
- ในสำนวนที่อ้างว่าเป็นหะดีษนั้น มีคำว่า “นมาซตะรอวีหฺ” ซึ่งนัยความจริงคำว่า “ตะรอวีหฺ” เป็นชื่อที่บรรดาอุละมาอฺในยุคหลังตั้งชื่อขึ้นมาเอง โดยชื่อดังกล่าวไม่เคยถูกเรียกในสมัยของท่านนบีแม้แต่น้อย เพราะในสมัยของท่านนบีจะเรียกละหมาดในค่ำคืนของเดือนเราะมะฎอนว่า “ละหมาดกิยามุเราะมะฎอน” หรือละหมาดในเดือนเราะมะฎอน ไม่ใช่เรียกว่า “ละหมาดตะรอวีหฺ” เฉกเช่นในยุคปัจจุบัน
รายงานจากท่านมุฆีเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ฉันได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
مَنْ كَذَبَ عَلَيَّ مُتَعَمِّدًا فَلْيَتَبَوَّأْ مَقْعَدَهُ مِنْ النَّارِ
“บุคคลใดโกหกต่อฉันอย่างตั้งใจ ดังนั้นเขาจงเตรียมที่นั่งของเขาในไฟนรก” (บันทึกโดยมุสลิม : 34 อิบนุมาญะฮฺ : 30 อะหฺมัด : 585)
والله أعلم بالصواب
เขียนโดย truth islam
แหล่งที่มา : http://theleader.co/
#เรื่องเล่าคติเตือนใจ_Islamic_Society_Online
#นิติศาสตร์อิสลาม_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น