เชื่อหรือไม่ว่า“ประตูกะบะห์”เป็นฝีมือของช่างมุสลิมไทย
คุณเชื่อหรือไม่ว่า “ประตูกะบะห์” เป็นฝึมือของช่างมุสลิมไทย ท่านทราบหรือไม่ว่าประตูกะบะห์ที่มหานครมักกะห์ ซึ่งเป็นจุดรวมจิตใจของชาวมุสลิมทั่วโลกนั้น เป็นไม้จากประเทศไทยและเป็นฝีมือของช่างคนไทย โดยอาจารย์อับดุลเลาะห์ นาคนาวา ณ หมู่บ้านวัฒนธรรมโลกอาหรับ จำลอง นาคนาวาฟาร์ม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
เมื่อปี พ.ศ. 2519 มีคณะราชวงศ์ของประเทศซาอุดีอาระเบีย มาเยือนประเทศไทย ซึ่งในคณะก็มีเจ้าชายอามีร มายิด ซึ่งเป็นผู้ว่าการนครมักกะห์ในขณะนั้นร่วมเดินทางมาด้วย โดยมีเช็คอับดุลเลาะห์ บินตุรกี เป็นเลขา และในคณะก็ยังมีเช็คอะหมัด อิบรอฮีม บะดุร (ซึ่งเป็นผู้รับผิดขอบการทำประตูกะบะห์) ร่วมเดินทางมาด้วย
ซึ่งในขณะนั้นได้มีคุณคฑาวุธ (อับดุลเลาะห์) นาคนาวา เป็นล่ามถ่ายทอดภาษา เช็คอะหมัด เล่าให้ฟังว่า น้องชายของท่านคือ ดร.ฟาอีส อิบรอฮีม บะดุร ซึ่งเป็นผู้ว่าการการท่าเรือยิดดะห์ ได้ติดต่อไม้มะค่าโมง ไปจากประเทศไทยเพื่อทำประตูกะบะห์
แต่ตอนนี้ท่านต้องการช่างไม้และช่างทองเพื่อไปช่วยในงานนี้ ซึ่งท่านได้ให้คุณคฑาวุธเป็นผู้ประสานงานนี้ตั้งแต่เริ่มต้น
โดยการหาช่างไม้ได้แก่
ซึ่งทั้งหมดก็ได้เดินทางไปทำงานชิ้นสำคัญนี้ โดยงานชิ้นนี้ได้รับการออกแบบโดยช่างแบบชาวซีเรีย
ชื่อมูนีร ยุนดี ซึ่งมีข้อตกลงกับกระทรวงเอากอฟว่า - ต้องออกแบบโดยใช้ลักษณะตัวอักษรอาหรับแบบคอต ที่จะเขียนอายะห์อัลกุรอาน
เช็คอับดุลวาฮับ อับดุลวะเซียะ ซึ่งเป็น รมต.ฮัจญ์ ในขณะนั้น ก็ได้มาตรวจดูงานอยู่เป็นระยะๆ เมื่อทำงานได้ประมาณ 60 % มกุฎราชกุมาร ฟาฮัด (ในขณะนั้น) ก็ทรงเสด็จเยี่ยมชมการทำงานเช่นเดียวกัน
การทำประตูกะบะห์นั้นมีปัญหาเกี่ยวกับความร้อนสูงและความชื่นภายในกะบะห์อาจทำให้ไม้นั้นยืดและหดตัวได้ จึงต้องใช้วิธีตัดซอยไม้จากแผ่นใหญ่ออกให้เป็นส่วนที่เล็กลง เพื่อทำการเข้าลิ่ม เหมือนกับบ้านไทยโบราณโดยใช้กาวและตะปูเป็นตัวเชื่อม เพื่อให้รองรับการยืดหดตัวของไม้
แต่ตอนนี้ท่านต้องการช่างไม้และช่างทองเพื่อไปช่วยในงานนี้ ซึ่งท่านได้ให้คุณคฑาวุธเป็นผู้ประสานงานนี้ตั้งแต่เริ่มต้น
โดยการหาช่างไม้ได้แก่
- คุณอีซา กาสุหลง
- คุณสุไลมาน ซันหวัง
- คุณฮุเซ็น และอิ่ม
- ส่วนช่างทองได้แก่คุณอาลี มูลทรัพย์
- คุณฮุไซนี และคุณกอเซ็ม
ซึ่งทั้งหมดก็ได้เดินทางไปทำงานชิ้นสำคัญนี้ โดยงานชิ้นนี้ได้รับการออกแบบโดยช่างแบบชาวซีเรีย
ชื่อมูนีร ยุนดี ซึ่งมีข้อตกลงกับกระทรวงเอากอฟว่า - ต้องออกแบบโดยใช้ลักษณะตัวอักษรอาหรับแบบคอต ที่จะเขียนอายะห์อัลกุรอาน
- ต้องเลือกแบบลายศิลปะที่เป็นแบบอิสลามและเข้ากับความเป็นจริง
- การออกแบบของทองคำที่ใช้แกะตัวอักษรต้องมีส่วนของเงินผสมอยู่ด้วย
- ต้องให้ศิลปะสอดคล้องกับวิศวะกรรมสมัยใหม่
- โครงสร้างต้องแน่นหนาสวยงาม ซึ่งไม่ต้องการให้ซ่อมอยู่บ่อย ๆ เมื่อการทำงานเริ่มต้นขึ้นในปี ฮ.ศ 1398 เดือนซุลฮิจยะห์นั้นจะต้องมีการเตรียมงานขั้นต้นก่อนเพื่อให้ประตูเสร็จแล้วจึงไปติดตั้ง ซึ่งในขั้นตอนนี้ทีมงานได้ใช้บ้านของท่าน เช็คอะหมัด อิบรอฮีม บะดุร เป็นโรงงานที่เตรียมงาน ซึ่งในการทำงานนั้นใช้ไม้มะค่าโมงซึ่งมีอายุถึง 200 ปี มีความหนา 3 นิ้ว กว้าง 1.60 เมตร ยาวกว่า 2.00 เมตร จำนวน 8 แผ่น ซึ่งไม้นี้เป็นไม้ที่ได้มาจากต้นไม้เพียงต้นเดียว แสดงให้เห็นว่าจะต้องเป็นต้นไม้ที่ใหญ่มาก ใช้เวลาเลื่อยและอบที่ประเทศไทยเป็นเวลา 3 เดือน
เช็คอับดุลวาฮับ อับดุลวะเซียะ ซึ่งเป็น รมต.ฮัจญ์ ในขณะนั้น ก็ได้มาตรวจดูงานอยู่เป็นระยะๆ เมื่อทำงานได้ประมาณ 60 % มกุฎราชกุมาร ฟาฮัด (ในขณะนั้น) ก็ทรงเสด็จเยี่ยมชมการทำงานเช่นเดียวกัน
การทำประตูกะบะห์นั้นมีปัญหาเกี่ยวกับความร้อนสูงและความชื่นภายในกะบะห์อาจทำให้ไม้นั้นยืดและหดตัวได้ จึงต้องใช้วิธีตัดซอยไม้จากแผ่นใหญ่ออกให้เป็นส่วนที่เล็กลง เพื่อทำการเข้าลิ่ม เหมือนกับบ้านไทยโบราณโดยใช้กาวและตะปูเป็นตัวเชื่อม เพื่อให้รองรับการยืดหดตัวของไม้
ส่วนในเรื่องของทองนั้นช่างทอง ต้องหลอมและรีดให้เป็นแผ่น ขนาด 1 คูณ 3 เมตร แล้วเขียนแบบตัวคอตแล้วจึงตอกเป็นตัวนูน ซึ่งผู้ที่เขียนภาษาก็คือ เช็คอับดุลรอฮีม อามีน แต่ในขณะนั้นท่านสุขภาพไม่ดีจึงต้องเข้าออกรักษาตัวโรงพยาบาลประจำ จึงทำให้การเขียนนั้นต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีกว่า
แหล่งที่มา : http://furniture-manman.blogspot.com/
#ประวัติศาสตร์อิสลาม_Islamic_Society_Online
#สารพันบทความ_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น