แดร็กคูล่าและมุฮัมมัดอัลฟาติหฺ
ออตโตมันในยุโรปตะวันออก และนิยายผีดูดเลือดกับเรื่องจริงในประวัติศาสตร์แดร็กคูล่า มีทั้งที่เป็นนวนิยายและมีที่เป็นเรื่องจริงๆ ที่เป็นนิยายนั้นเป็นผีดูดเลือด เขียนโดยนักเขียนชาวไอริช Bram Stoker ในปีค.ศ. 1897 เมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว และเป็นงานที่สร้างความตื่นเต้น เมื่อถึงยุคภาพยนตร์ก็มีคนไปสร้างเป็นหนังกันมากมาย จนจำไม่ได้แล้วว่ามีกี่เรื่อง (เมืองไทยยังเอามาสร้างล้อเลียน) ...ไม่นานมีหนังเกี่ยวกับ แดร๊กคูล่า ออกมาอีก ชื่อว่า "Dracula Untold แดร็กคูล่า ตำนานลับโลกไม่รู้" (ตามโปสเตอร์) นี่เป็นหนังที่อ้างประวัติศาสตร์มาก แต่ก็ยังเป็นหนังผีดูดเลือดอยู่ดี ... ไม่ได้ดูหนังนี้ ดูแค่ “ตัวอย่าง” หนัง ก็ต้องแปลกใจที่มีฉากปะทะกันระหว่างแดร็กคูล่ากับสุลต่านอัลฟาติหฺ เรียกว่าดวลกันตัวต่อตัวแบบในหนังแอ็คชั่นของฮอลลี่วูดเท่าที่อ่านคำอธิบายเรื่องย่อ เขาก็บอกว่า แดร็กคูล่าจำเป็นต้องขายวิญญาณให้ปีศาจเพื่อปกป้องครอบครัวให้พ้นจากสุลต่านที่กระหายเลือด ในหนังนี้ตัวอัลฟาติหฺจึงกลายเป็นผู้ร้ายมากๆ และเป็นหนังเรื่องแรกของแดร็กคูล่าที่ได้เป็นพระเอกที่น่าสงสารไป ...แต่มันคือหนังละครับ ไปเอาคนที่มีตัวจริงในประวัติศาสตร์มาทำเลอะเทอะไปหมด
เรื่องจริงๆ ขอเล่าย่อๆ เริ่มจาก 2 คนนี้ก่อน คือ อัลฟาติหฺ (ค.ศ.1432-1481) และแดร็กคูล่า (ค.ศ.1431-1476) เป็นคนรุ่นเดียวกันเลย แดร็กคูล่าแก่กว่า 1 ปี เป็นอย่างน้อย เรื่องของเรื่องจริงๆ ต้องนึกให้ออกว่า จักรวรรดิออตโตมันนั้นเติบโตขึ้นในเอเชียไมเนอร์(ตุรกีปัจจุบัน) การขยายตัวของออตโตมันในยุคต้นๆ นั้นแทบไม่ได้มาที่โลกอาหรับหรือทางฝั่งดินแดนมุสลิมเดิมๆ เลย มุ่งไปทางยุโรปตะวันออกมากกว่า หากใครดูแผนที่ของออตโตมันช่วงนี้จะเห็นว่า การขยายตัวทับซ้อนพื้นที่เดิมของจักวรรดิไบแซนทีน ครอบคลุมกรีก คาบสมุทรบอลข่าน และไปมีอิทธิพลรอบทะเลดำที่ติดกับยุโรปมากกว่า เรียกว่าเป็น จักรวรรดิของยุโรปตะวันออก ที่มาแทนไบแซนทีน จริงๆ ออตโตมันนั้นมีพื้นที่ในยูโรปตะวันออกบางส่วนแล้ว ก่อนจะพิชิตคอนสแตนติโนเปิลในปี ค.ศ. 1453 เสียอีก ประเทศหนึ่ง (ในปัจจุบัน) ที่ออตโตมันเข้าไปยึดครองดินแดนบางแคว้นมาคือโรมาเนีย แคว้นที่ยึดครองเรียกว่าวัลลาเชียในปีค.ศ. 1417 แคว้นนี้ติดกับทะเลดำและเป็นทีกำเนิดของเจ้าชายวลาดที่ 3 ที่รู้จักกันในนามของแดร็กคูล่า อันเป็นฉายาในภาษาโรมาเนียของเขาที่แปลว่า บุตรชายของมังกร
แต่เรื่องจริงๆ มันซับซ้อนมากมายคล้ายๆ กับอาณาจักรยุคนั้นในที่ต่างๆ ของโลก คือไม่เพียงมุสลิมออตโตมันจะมีปัญหากับชาติริมขอบยุโรปตะวันออก พวกเขาก็มีปัญหากันเอง อย่างฮังการีก็มีปัญหากับวัลลาเชีย (โรมาเนีย) และในวัลลาเชียก็มีปัญหาการเมืองภายในกันเองมากมาย เมื่อถึงสมัยที่ตกเป็นส่วนหนึ่งของออตโตมัน มาถึงยุคการปกครองของบิดาของแดร็กคูล่า เขาต้องส่งบุตรชาย 2 คนไปยังราชสำนักของออตโตมัน (ในยุคของสุลฏอนมุรอด ผู้เป็นบิดาของอัลฟาติหฺ) เหตุผลหนึ่งคือเป็นตัวประกันตามแบบสมัยนั้น และอีกเหตุผลหนึ่งคือ การให้เรียนรู้อิสลาม (เพื่อให้เลือกการเข้ารับอิสลามได้) ซึ่งบุตรชายทั้งสองได้ใช้ชีวิตอยู่ 6 ปี บุตรชายคนโตคือแดร็กคูล่า เรียนรู้แต่ก็ไม่ได้รับอิสลาม แต่คนน้องคือ "ราดู" ได้รับอิสลามและแต่งงานกับผู้หญิงมุสลิม และกลายเป็นสหายสนิทของอัลฟาติหฺ เขายังได้ทำงานให้กับออตโตมันต่อ ส่วนแดร็กคูล่านั้นกลับไปปกครองแคว้นวัลลาเซีย
หลังจากอัลฟาติหฺพิชิตคอนสแตนติโนเปิลได้ในปึ ค.ศ. 1453 อำนาจของออตโตมันก็มั่นคงขึ้นในฝั่งยุโรป มีการย้ายเมืองหลวงมายังที่นี่ ปัญหาก็เกิดขึ้นกับแคว้นวัลลาเชีย (โรมาเนีย) ในอีกไม่กี่ปีต่อมา คือในปึ ค.ศ. 1459 แดร็กคูล่าเริ่มไม่จ่ายภาษียิซยะฮฺให้กับออดโตมัน (ในฐานะเป็นเป็นส่วนหนึ่งของออตโตมัน) แล้วในไม่นานแดร็กคูล่าก็ได้ข้ามแม่น้ำดานูบเข้ามาสังหารผู้คนไปหลายหมื่นคนอย่างโหดเหี้ยม อัลฟาติหฺจึงได้ยกทัพเข้ามายึดแคว้นวัลลาเชีย และได้ให้ ราดู ผู้เป็นน้องชายเป็นกษัตริย์แทน ส่วนแดร็กคูล่าหนีไปแคว้นทรานซิลวาเนีย (ส่วนหนึ่งของโรมาเนีย) แต่ก็ถูกหักหลังโดยทางแคว้นนี้ส่งต่อไปยังกษัตริย์ฮังการี แต่หลังจากราดูเสียชีวิต ทางฮังการีก็ปล่อยตัวกลับมา แดร็กคูล่าก็แย่งบัลลังค์มาครองอีกครั้ง แต่รอบนี้ชาววัลลาเชียไม่ยอมรับเขา ในที่สุดเขาก็อยู่ได้เพียงสั้นๆ ก่อนจะถูกออตโตมันยกทัพมาปราบอีก และจับตัวเขาไป ประหารชีวิตที่คอนสแตนติโนเปิล ในปีค.ศ. 1476 เรื่องราวจริงๆ ของแดร็กคูล่าก็จบลงอย่างนี้
เรื่องราวของแดร็กคูล่าโด่งดังมาก ก็มาจากการทำสงครามอันโหดร้ายของเขา เขาไม่เคารพกฎของการทูต เขาสังหารทูตของอัลฟาติหฺที่ส่งไป โดยการตอกตะปูผ้าโพกหัวให้ติดกับศีรษะ ที่น่ากลัวไปอีกคือการปฏิบัติต่อเชลยศึกและชาวเติร์ก ด้วยการจับเชลยมาเสียบทั้งเป็นให้ค่อยๆ ตายไป เขาทำอย่างนี้หลังเสร็จสงครามกับคนนับพันนับหมื่น สร้างความสยดสยองให้ผู้ที่พบเห็น จนทำให้รับฉายาว่า จอมเสียบ (the Impaler) เรื่องนี้เลื่องลือมากจนทำให้เขาดูเหมือนปิศาจร้ายไปนั่นเอง แน่นอนที่สุดว่าการทำเช่นนี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายออตโตมันเองก็ไม่เคยประสบพบเจอ เรื่องนี้ได้สร้างความโกรธกริ้วอย่างยิ่งให้กับอัลฟาติหฺ และเขาได้เคลื่อนกองทัพไปทำศึกสงครามหลายครั้ง จนสุดท้ายก็สังหารแดร็กคูล่าได้
เรื่องราวของแดร็กคูล่า จึงเป็นเรืองราวของ เจ้าชายสองคนของแคว้นวัลลาเชีย ที่ถูกนำมาให้เรียนรู้อิสลามในราชสำนักของออตโตมัน คนพี่ไม่ได้รับอิสลาม และกลับไปครองแคว้น ต่อมากลายเป็นกบฏ ส่วนคนน้องนั้นรับอิสลามและต่อมาต้องสู้กับผู้เป็นพี่ในสงครามแย่งชิงแคว้นวัลลาเชีย เหตุการณ์ของสงครามเกิดขึ้นในช่วงท้ายของมุฮัมมัด อัลฟาติหฺ หลังจากพิชิตคอนสแตนติโนเปิลได้แล้ว
นี่เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ยุโรปตะวันออกในยุคต้นๆ ที่ออตโตมันเข้าไปครองอำนาจอยู่หลายปี เป็นเหตุการณ์หลังอารมณ์แบบครูเสดเพิ่งจบลงไม่นาน การต่อต้านออตโตมันจึงดุเดือดมาโดยตลอด ถึงอย่างไรการปฏิสัมพันธ์หลายศตวรรษที่แม้จะหนักไปทางความขัดแย้งมากกว่า แต่ก็มีผลทำให้หลายชาติในยุโรปตะวันออกมาเป็นมุสลิม โดยเฉพาะในคาบสมุทรบอลข่าน อย่างชาวบอสเนีย (ซึ่งจริงๆ ก็คือคนที่พูดภาษาแบบเซิร์บที่มารับอิสลาม) ชาวอัลบาเนี่ยน (ปัจจุบันคือประเทศอัลบาเนีย และประเทศโคโซโว) ส่วนชาติอื่นๆ ก็มีบ้าง แต่เป็นชุมชนเล็กๆ รวมทั้ืงการมีชุมชนเติร์กขนาดใหญ่กระจายอยู่ในหลายประเทศของยุโรปตะวันออกอีกด้วย ซึ่งทำให้มุสลิมในยุโรปตะวันออกเป็นคนพื้นที่ดั้งเดิม ไม่เหมือนมุสลิมในยุโรปตะวันตกที่มักเป็นผู้อพยพมากกว่า
ส่วนหนังดัง Dracula Untold (แดร็กคูล่า ตำนานลับโลกไม่รู้) สร้างให้แดร็กคูล่ามีภาพลักษณ์ใหม่ และให้ตัวของอัลฟาติหฺเป็นผู้ร้ายไป คงออกมาตามกระแสโลกที่ให้อิสลามเป็นผู้ร้ายนั่นแหละ ... คงมีเว่อชั่นใหม่ๆ ตามมาแน่นอน และคงไม่พ้นการเป็นผีดูดเลือดอมตะกันต่อไป
เรื่องราวของแดร็กคูล่า จึงเป็นเรืองราวของ เจ้าชายสองคนของแคว้นวัลลาเชีย ที่ถูกนำมาให้เรียนรู้อิสลามในราชสำนักของออตโตมัน คนพี่ไม่ได้รับอิสลาม และกลับไปครองแคว้น ต่อมากลายเป็นกบฏ ส่วนคนน้องนั้นรับอิสลามและต่อมาต้องสู้กับผู้เป็นพี่ในสงครามแย่งชิงแคว้นวัลลาเชีย เหตุการณ์ของสงครามเกิดขึ้นในช่วงท้ายของมุฮัมมัด อัลฟาติหฺ หลังจากพิชิตคอนสแตนติโนเปิลได้แล้ว
นี่เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ยุโรปตะวันออกในยุคต้นๆ ที่ออตโตมันเข้าไปครองอำนาจอยู่หลายปี เป็นเหตุการณ์หลังอารมณ์แบบครูเสดเพิ่งจบลงไม่นาน การต่อต้านออตโตมันจึงดุเดือดมาโดยตลอด ถึงอย่างไรการปฏิสัมพันธ์หลายศตวรรษที่แม้จะหนักไปทางความขัดแย้งมากกว่า แต่ก็มีผลทำให้หลายชาติในยุโรปตะวันออกมาเป็นมุสลิม โดยเฉพาะในคาบสมุทรบอลข่าน อย่างชาวบอสเนีย (ซึ่งจริงๆ ก็คือคนที่พูดภาษาแบบเซิร์บที่มารับอิสลาม) ชาวอัลบาเนี่ยน (ปัจจุบันคือประเทศอัลบาเนีย และประเทศโคโซโว) ส่วนชาติอื่นๆ ก็มีบ้าง แต่เป็นชุมชนเล็กๆ รวมทั้ืงการมีชุมชนเติร์กขนาดใหญ่กระจายอยู่ในหลายประเทศของยุโรปตะวันออกอีกด้วย ซึ่งทำให้มุสลิมในยุโรปตะวันออกเป็นคนพื้นที่ดั้งเดิม ไม่เหมือนมุสลิมในยุโรปตะวันตกที่มักเป็นผู้อพยพมากกว่า
ส่วนหนังดัง Dracula Untold (แดร็กคูล่า ตำนานลับโลกไม่รู้) สร้างให้แดร็กคูล่ามีภาพลักษณ์ใหม่ และให้ตัวของอัลฟาติหฺเป็นผู้ร้ายไป คงออกมาตามกระแสโลกที่ให้อิสลามเป็นผู้ร้ายนั่นแหละ ... คงมีเว่อชั่นใหม่ๆ ตามมาแน่นอน และคงไม่พ้นการเป็นผีดูดเลือดอมตะกันต่อไป
แหล่งที่มา : Tarikh - ประวัติศาสตร์
#เรื่องเล่าคติเตือนใจ_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น