ยุคมืดของยุโรป ยุคทองมุสลิม
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฏราชกุมารแห่งอังกฤษ (ที่มา) |
หากจะมีความเข้าใจผิดอันมากมายของชาวตะวันตกเกี่ยวกับอิสลามแล้วละก็ มันก็คือการไม่ยอมรับรู้ว่าวัฒนธรรมและอารยธรรมของเราเป็นหนี้บุญคุณโลกอิสลามขนาดไหน มันคือความบกพร่องที่ผมคิดว่ามาจากประวัติศาสตร์ที่เรารับมรดกมา โลกอิสลามในสมัยกลางซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลครอบคลุมดินแดนเอเชียกลางไปจนถึงริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นโลกที่นักปราชญ์และนักวิชาการรุ่งเรืองที่สุด แต่เป็นเพราะเรามักมองอิสลามว่าเป็นศัตรูกับโลกตะวันตก เป็นวัฒนธรรม, สังคม, และระบบความเชื่อของคนแปลกหน้า เราก็เลยมักเพิกเฉยและลบล้างความเกี่ยวพันอันยิ่งใหญ่ที่อิสลามมีต่อประวัติศาสตร์เราเสีย
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฏราชกุมารอังกฤษ, สุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
---------------------------------------------
คาร์ลี ฟิออรินา (ที่มา) |
ครั้งหนึ่งได้เคยมีอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกก่อกำเนิดขึ้นมา
อารยธรรมนี้ได้สร้างสรรค์จักรวรรดิที่ทอดยาวจากมหาสมุทรหนึ่งไปจรดอีกมหาสมุทรหนึ่ง และจากโลกด้านเหนือสู่แถบศูนย์สูตรและทะเลทราย จักรวรรดิที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลายร้อยล้านที่ต่างความเชื่อและต่างเชื้อชาติ
ภาษาหนึ่งของพวกเขาได้กลายมาเป็นภาษาสากลของโลกส่วนใหญ่ ที่ได้เชื่อมโยงผู้คนในดินแดนนับร้อยแห่ง กองทัพของพวกเขาประกอบด้วยคนจากหลากหลายเชื้อชาติ และแสนยานุภาพทางทหารของพวกเขาทำให้บ้านเมืองสงบสันติและรุ่งเรืองอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน การค้าของอารยธรรมนี้ทอดยาวจากละตินอเมริกาไปจนถึงเมืองจีน และดินแดนทุกหนทุกแห่งที่ตั้งอยู่ระหว่างนั้น
และอารยธรรมนี้ก็มิได้ถูกขับเคลื่อนโดยอะไรเลยนอกไปจาก การสร้างสรรค์และประดิษฐ์คิดค้น
สถาปนิกของพวกเขาได้ออกแบบอาคารที่ท้าทายแรงโน้มถ่วงของโลก นักคณิตศาสตร์ของพวกเขาคิดค้นพีชคณิตและอัลกอริธึมที่ทำให้เราประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ได้ในวันนี้และยังคิดค้นการสร้างรหัสลับ แพทย์ของพวกเขาตรวจสอบร่างกายมนุษย์และค้นพบวิธีรักษาโรคใหม่ๆ นักดาราศาสตร์สำรวจดวงดาวบนท้องฟ้า ตั้งชื่อดาว และแผ้วถางทางไว้สำหรับการเดินทางในอวกาศและการสำรวจยุคต่อมา
นักเขียนของพวกเขาแต่งหนังสือล้ำค่านับพันนับหมื่นเรื่องราว ทั้งเรื่องเกี่ยวกับความกล้าหาญ โรมานซ์ และอำนาจวิเศษ กวีของพวกเขารจนาถึงความรักอันเพริศแพร้วซึ่งเป็นเรื่องที่หามีกวีรุ่นก่อนหน้ากล้าเขียนถึงไม่
ในขณะที่ชาติอื่นกำลังตื่นกลัวกับความคิดนอกกรอบ อารยธรรมนี้กลับรุ่งเรืองบนความคิดสร้างสรรค์และการคิดค้นวิทยาการใหม่ๆ และทำให้ศาสตร์เหล่านั้นมีชีวิต ยามที่ผู้ปกครองบางยุคข่มขู่ว่าจะทำลายล้างความรู้ของอารยธรรมในอดีต ก็เป็นอารยธรรมนี้เองที่เป็นผู้เก็บรักษาความรู้เหล่านั้นไว้ สร้างสรรค์วิทยาการล้ำค่าเพิ่มเติม และส่งต่อให้กับอารยธรรมถัดไป
อารยธรรมตะวันตกก็มีคุณลักษณะใกล้เคียงกันนี้ แต่อารยธรรมที่ฉันกำลังกล่าวถึงคืออารยธรรมอิสลามที่รุ่งเรืองช่วง ค.ศ.800 - ค.ศ.1600 ซึ่งประกอบด้วยจักรวรรดิออตโตมาน ราชสำนักแบกแดด ดามัสกัส ไคโร และผู้ปกครองที่สมบูรณ์แบบอย่างสุลต่านสุไลมานผู้ยิ่งใหญ่
แม้เราจะไม่เคยตระหนักถึงหนี้บุญคุณที่เรามีต่ออารยธรรมนี้ แต่ผลงานการสร้างสรรค์ของพวกเขาก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของมรดกเราอยู่ดี และคงจะไม่มีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในวันนี้หากไม่เพราะการคิดค้นของนักคณิตศาสตร์อาหรับ กวีและนักปรัชญาซูฟีชื่อดังอย่าง รูมี ท้าทายความคิดเกี่ยวกับความเป็นตัวตนของเราและสัจธรรม ผู้นำอย่างสุลต่านสุไลมานผู้เกรียงไกรเป็นตัวอย่างแก่เราในด้านความใจกว้างและภาวะผู้นำในทางโลก
และบางทีเราอาจเรียนรู้จากตัวอย่างของสุลต่านสุไลมาน: นั่นก็คือภาวะผู้นำที่อยู่บนพื้นฐานของความสำเร็จที่มาจากความสามารถของตัวเอง มิใช่จากมรดกตกทอดทางชนชั้น เป็นผู้นำที่ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการปกครองผู้คนที่หลากหลายที่สุด - ทั้งวัฒนธรรมคริสต์ อิสลามและยิว
ภาวะผู้นำที่สอนและกระตุ้นผู้คนเช่นนี้เอง ภาวะผู้นำที่อุปถัมภ์วัฒนธรรม ความสถาพร ความหลากหลาย และความกล้าหาญ ที่นำไปสู่ 800 ปีแห่งการประดิษฐ์คิดค้นและความรุ่งเรือง
คาร์ลี ฟิออรินา, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด. 26 กันยายน 2001.
...............................................................................................................................
เราถูกสอนโดยโลกตะวันตกว่า...อารยธรรมโลกเริ่มต้นจากกรีกสมัยก่อนคริสตกาลจนมาถึงโรมันสมัยศตวรรษที่ 5 แล้วจากนั้นเราก็ดำดิ่งเข้าสู่ยุคมืดนับพันปี ก่อนจะฟื้นสู่ยุคเรอเนสซองในศตวรรษที่ 16 ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 18 และ 19 จนกระทั่งถึงอารยธรรมสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 20
แต่มันจริงละหรือ?
จู่ๆ อารยธรรมโลกสมัยใหม่เกิดขึ้นมาเองกระนั้นหรือ? โดยมิได้มีการต่อยอดความคิดจากอารยธรรมที่รุ่งเรืองก่อนหน้านั้นเลย?
หรือว่า...ใน ยุคมืด ของยุโรปนั้น บางส่วนของโลกกลับสว่างไสวอย่างเหลือล้นด้วยอารยธรรมที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยมนุษย์จากทะเลทราย ที่ต่อมาได้ผลักดันให้เกิดยุคเรอเนสซองในโลกตะวันตก และเป็นรากฐานให้กับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในทุกวันนี้...
แหล่งที่มา : http://oknation.nationtv.tv/blog/
#นานาทัศนคติ_Islamic_Society_Online
#เรื่องเล่าคติเตือนใจ_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น