product :

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ชีวประวัติท่านนบีมูซา

ชีวประวัติท่านนบีมูซา


ประวัติ นบีมูซา อะลัยฮิสสลาม

ท่าน นบีมูซา บินอิมรอน (อ.) เป็นลูกหลานของท่านนบียะอ์กูบ และมาจากเผ่าบนีอิสรออีล ซึ่งอยู่ในแผ่นดินอิยิปต์ พวกเขาได้พำนักอยู่ในพื้นแผ่นดินนั้นตั้งแต่สมัยที่ท่านนบียูซุฟได้เชิญชวน ผู้เป็นบิดาและบรรดาพี่ชายของท่านมาอยู่ที่แห่งนั้น

ความเป็นอยู่ของเผ่า “บนีอิสรออีล” เป็น ไปอย่างสมเกียรติและราบรื่น จำนวนประชากรของพวกเขาก็ได้เพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ทว่าครั้นเมื่อท่านนบียูซุฟได้จากโลกนี้ไปนั้น เจ้าเมืองแห่งอิยิปต์ก็เริ่มที่จะสร้างความกดดันให้กับพวกเขาและทำให้พวกเขา อ่อนแอลง จนกระทั่งเมื่อ “ฟิรอูน” ได้ขึ้นครองราช เขาได้พยายามทำให้ บนี อิสรออีลไม่มีอิทธิพลใดๆ ในพื้นแผ่นดินนั้นอีกต่อไป และได้สั่งฆ่าทารกเพศชายเพื่อที่จะปกป้องรักษาบัลลังก์ของตน ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเช่นนี้ ท่านนบีมูซาก็ได้ถือกำเนิดมาจากบิดาที่มีนามว่า “อิมรอน (อ)” และมารดาที่มีนามว่า “ยูกาบิด” ด้วย กับความเมตตาและความกรุณาของพระเจ้า นอกจากนบีมูซาได้รอดพ้นจากการถูกฆ่าสังหารแล้ว ท่านยังได้ใช้ชีวิตช่วงเยาว์วัยในวังของฟิรอูนอีกด้วย จนกระทั้งท่านได้โตเป็นหนุ่ม และได้เดินทางไปยังเมือง “มัดยัน” ณ ที่แห่งนั้นเองที่ท่านได้แต่งงานกับบุตรีคนหนึ่งของนบีชุอัยบ์ หลังจากที่เวลาได้ผ่านไปยาวนานประมาณ 10 ปี ท่านก็ได้กลับสู่อิยิปต์อีกครั้ง ในระหว่างเดินทางกลับอิยิปต์นั้นท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสนทูตแห่งพระ เจ้า และได้รับมอบหน้าที่ให้เชิญชวนฟิรอูนศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์ อีกทั้งนำทางบนีอิสรออีลด้วย
ตลอดชั่วชีวิตของท่านนบีมูซา (อ.): ตั้งแต่กำเนิดจนถึงการเสียชีวิต ท่านได้รับการช่วยเหลือจากพลังอำนาจที่เร้นลับของพระองค์อัลลอฮ์ตลอดเวลา ดังนั้นกุรอานจึงได้กล่าวถึงเรื่องราวของท่านไว้มากมาย
แบบฉบับของพระองค์ได้ถูกฟื้นฟูอีกครั้ง

ในหน้าประวัติศาสตร์ผู้ที่เพียบพร้อมไปด้วยอำนาจและบารมีนั้น แม้นว่าพวกเขาจะมีกองกำลังทางทหารมากมายและสามารถรักษาบัลลังก์ของเขาไว้ได้ แต่ก็จะรู้สึกหวาดกลัวผู้ถูกกดขี่และผู้ไร้อำนาจที่อยู่ภายใต้อำนาจการ ปกครองอยู่ตลอดเวลา กลัววันที่พวกเขาจะร่วมมือกันกบฏและทำให้รากฐานการปกครองต้องสั่นคลอน และจะหวาดกลัวต่อศาสดาและบรรดาผู้หวังดีกับสังคม แม้นว่าพวกเหล่านั้นจะโดดเดี่ยวและเดียวดายไร้ซึ่งทรัพย์สินและอำนาจก็ตาม – เพราะ รู้ดีว่า เมื่อพวกเขาลงมือที่จะทำการใดๆ นั้นและเมื่อประชาชนได้ร่วมมือกับพวกเขาแล้ว จะถึงเวลาที่บัลลังก์ของพวกเขาจะถูกโค่นล้มลงอย่างแน่นอน บางทีความหวาดกลัวจะโหมกระหน่ำผู้ที่มีอำนาจจนบางครั้งพวกเขาต้องเจอกับฝันร้ายในยามหลับ และจะต้องตามหาโหรทำนายความฝันเหล่านั้นอย่างหวาดผวา พวกเขาจะพยายามป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ในอนาคตด้วยการกระทำที่อธรรมต่างๆ เท่าที่เขาสามารถจะทำได้ แต่ความประสงค์ของพระองค์อัลลอฮ์ย่อมตรงข้ามกับความต้องการของพวกเขาอยู่เสมอ และในทุกช่วงของประวัติศาสตร์ผู้อธรรมทั้งหลายจะถูกโค่นล้มอำนาจมาโดยตลอด และผู้ถูกอธรรมจะขึ้นเป็นผู้นำ เพื่อที่จะเป็นบทเรียนให้กับประชาชาติต่อไป

เรื่องราวของนบีมูซา (อ.) และฟิรอูนเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ในประเด็นนี้ในซูเราะฮ์เกาะศ็อศได้กล่าวว่า:
เราจะอ่านแก่เจ้า บางส่วนแห่งเรื่องราวของมูซาและฟิรอูนด้วยความจริง เพื่อหมู่ชนผู้ศรัทธา แท้จริงฟิรอูนหยิ่งผยองในแผ่นดิน และทำให้ประชาชนนั้นแตกแยกเป็นกลุ่มๆ เขาทำให้ชนกลุ่มหนึ่งในพวกเขาอ่อนแอ โดยฆ่าลูกหลานผู้ชายของพวกเขาและไว้ชีวิตเหล่าสตรีของพวกเขา แท้จริงเขาเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้บ่อนทำลาย และเราปรารถนาที่จะให้ความโปรดปรานแก่บรรดาผู้ที่อ่อนแอในแผ่นดิน และเราจะทำให้พวกเขาเป็นหัวหน้า และทำให้พวกเขาเป็นผู้รับมรดก และเราได้ให้พวกเขาครอบครองในแผ่นดิน และเราจะให้ฟิรอูนและฮามานตลอดจนไพร่พลของเขาทั้งสอง ได้เห็นสิ่งที่พวกเขามีความกลัว (เกาะศ็อศ 3-6)

1. นบีมูซา (อ.)

กุรอานได้ยกตัวอย่างของชัยชนะของเหล่าบรรดาผู้ยากไร้เหนือบรรดาผู้กดขี่ โดยยกตัวอย่างเรื่องราวของท่านนบีมูซา (อ.) ครั้นเมื่อท่านยังอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด และฟิรอูนอยู่ในสภาพที่มีอำนาจมากที่สุด ในเมื่อท่านนบีมูซา (อ.) เพิ่งได้ถือกำเนิดมา และอยู่ในครอบครัวที่ไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆ เลย แต่อำนาจของฟิรอูนอยู่ในขั้นที่ทหารของเขาสามารถนำข่าวสารจากบ้านทุกหลังมารายงานให้ฟิรอูนให้รับทราบได้ และพวกเขาจะฆ่าทารกที่ถือกำเนิดมาเป็นเพศชายอย่างเลือดเย็น

การ ที่ท่านนบีมูซาได้ถือกำเนิดและอยู่รอดมาได้ในสถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวเช่น นี้นั้น พิสูจน์ให้เห็นว่าความต้องการของพระผู้เป็นเจ้านั้นอยู่เหนือแผนการณ์ของผู้อธรรมทั้งหลายแน่นอน 
 
ดังนั้นในซูเราะฮ์เกาะศ็อศได้กล่าวต่ออีกว่า:


وَأَوْحَيْنَا إِلَى أُمِّ مُوسَى أَنْ أَرْضِعِيهِ فَإِذَا خِفْتِ
عَلَيْهِ فَأَلْقِيهِ فِي الْيَمِّ وَلا تَخَافِي وَلا تَحْزَنِي إِنَّا رَادُّوهُ إِلَيْكِ وَجَاعِلُوهُ مِنَ الْمُرْسَلِينَ 
 

และ เราได้ดลใจแก่มารดาของมูซา จงให้นมแก่เขา เมื่อเจ้ากลัวแทนเขาก็จงโยนเขาลงไปในแม่น้ำ และเจ้าอย่าได้กลัวและอย่าได้เศร้าโศก แท้จริงเราจะให้เขากลับไปหาเจ้า และเราจะทำให้เขาเป็นหนึ่งในบรรดาร่อซูล” (เกาะศ็อศ /7)


หลัง จากที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) ได้ดลใจแม่ของนบีมูซา (อ.) เช่นนี้แล้ว นางได้นำนบีมูซา (อ.) ไว้ในกล่องไม้ใบหนึ่ง และได้ปล่อยให้กล่องใบนั้นล่องลอยไปตามสายน้ำของแม่น้ำไนล์ 
 
2. การเจริญเติบโตของนบีมูซา (อ.) ในวังของฟิรอูน

พระ องค์อัลลอฮ์ทรงเมตตาท่านนบีมูซา (อ.) ตั้งแต่ท่านยังเยาว์วัย หนึ่งในความเมตตานี้คือ พระองค์จะทรงดลใจผู้อื่นให้หลงรักและเอ็นดูนบีมูซา (อ.) เพื่อที่เขาจะได้เจริญเติบโตอย่างปลอดภัย ดังที่ในซูเราะฮ์ฏอฮาได้กล่าว 
 

وَأَلْقَيْتُ عَلَيْكَ مَحَبَّةً مِنِّي وَلِتُصْنَعَ عَلَى عَيْنِي 
 

และข้าก็ได้ให้ความรักจากข้าแก่เจ้า เพื่อเจ้าจะได้รับการเลี้ยงดู ภายใต้การดูแลของข้า (ฏอฮา / 39) 
 

แต่ สิ่งที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดนี้น่าทึ่งมากยิ่งขึ้น คือเมื่อเรารู้ว่านบีมูซา (อ.) นั้นได้เจริญเติบโตในบ้านของศัตรู และอัลลอฮ์ได้ทรงประกาศถึงความผิดพลาดของฟิรอูนบนหน้าประวัติศาสตร์แล้ว เพราะพวกเขาได้เข่นฆ่าทารกที่บริสุทธ์มากมาย เพื่อปกป้องบัลลังก์ของเขาให้รอดพ้นจากความพินาศ แต่พระองค์อัลลอฮ์ต้องการให้นบีมูซา (อ.) ได้เติบโตในอ้อมกอดของพวกเขาเอง 
 

فَالْتَقَطَهُ آلُ فِرْعَوْنَ لِيَكُونَ لَهُمْ عَدُوًّا وَحَزَنًا إِنَّ فِرْعَوْنَ وَهَامَانَ
وَجُنُودَهُمَا كَانُوا خَاطِئِينَ وَقَالَتِ امْرَأَةُ فِرْعَوْنَ قُرَّةُ عَيْنٍ لِي وَلَكَ لا تَقْتُلُوهُ عَسَى
نْ يَنْفَعَنَا أَوْ نَتَّخِذَهُ وَلَدًا وَهُمْ لا يَشْعُرُونَ 
 

ดัง นั้นบริวารของฟิรเอานได้เก็บเขาขึ้นมาเพื่อให้เขากลายเป็นศัตรู และความเศร้าโศกแก่พวกเขา แท้จริงฟิรเอาน และฮามานและไพร่พลของเขาทั้งสองเป็นพวกที่มีความผิด

และภริยาของฟิรเอาน กล่าวว่า “(เขาจะเป็นที่) น่าชื่นชมยินดีแก่ดิฉันและแก่ท่าน อย่าฆ่าเขาเลย บางทีเขาจะเป็นประโยชน์แก่เรา หรือเราจะถือเขาเป็นลูก” และพวกเขาหารู้สึกตัวไม่ (เกาะศ็อศ / 8-9) 
 

เรื่อง ราวเหล่านี้ทำให้เราได้รู้ว่า อำนาจและพระประสงค์ของอัลลอฮ์ (ซ.บ) นั้น ไม่ได้ปรากฎในรูปแบบของการยกกองทัพเพื่อทำสงครามหรือการส่งภัยตามธรรมชาติเท่านั้น แต่ทว่าบางทีศัตรูและคนรอบข้างรวมไปถึงทรัพย์ยากรต่างๆ ของพวกเขาก็สามารถเป็นเครื่องมือสำหรับพระประสงค์ของพระองค์ได้ เหตุการณ์และขั้นตอนของเรื่องราวดำเนินไปอย่างแนบเนียน ทำให้ไม่มีที่สงสัยเลยว่าอำนาจและคำบัญชาของพระองค์นั้นเหนือสิ่งอื่นใดใน โลกนี้ทั้งสิ้น

ประเด็น นี้จะชัดเจนมากขึ้นเมื่อเราได้ติดตามเรื่องราวต่อไป เมื่อพระประสงค์ของอัลลอฮ์กำหนดให้เขาไม่รับนมของแม่นมคนใดเลย จนกระทั้งได้กลับมาสู่อ่อมกอดของแม่ที่แท้จริง และได้ดื่มน้ำนมอันบริสุทธ์ของนาง และคำมั่นสัญญาที่พระองค์ได้กล่าวไว้กับนาง เกี่ยวกับการกลับมาของลูกน้อยสู่อ้อมกอดของเธอได้เป็นสัจจะในที่สุด 
 

فَرَدَدْنَاهُ إِلَى أُمِّهِ كَيْ تَقَرَّ عَيْنُهَا وَلا تَحْزَنَ وَلِتَعْلَمَ أَنَّ وَعْدَ اللَّهِ حَقٌّ وَلَكِنَّ أَكْثَرَهُمْ لا يَعْلَمُونَ 
 

ดังนั้น เราจึงให้เขากลับไปหามารดาของเขา เพื่อที่จะเป็นที่น่าชื่นชมยินดีแก่นางและนางจะไม่เศร้าโศก และเพื่อนางจะได้รู้ว่า แท้จริงสัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นจริงแต่ส่วนมากพวกเขาไม่รู้ (เกาะศ็อศ/13) 
 

3. วิสัยทัศน์และความรู้ของท่านนบีมูซา (อ.)

การคิดในสิ่งที่ดี, การพูดในสิ่งที่ดี, การ กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง นั้นเป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ในตัวของนบีทุกท่าน ก่อนที่พวกเขาจะได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นนบีด้วยซ้ำ ความดีและการกระทำในสิ่งที่ถูกต้องเหล่านี้ทำให้พวกเขาเป็นบุคคลที่เพียบ พร้อมไปด้วยความดีงาน, คุณธรรม, จริยธรรม และความรู้

ท่านนบีมูซา (อ.) เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนผู้หนึ่งจากบุคคลเหล่านี้ ที่ได้รับตำแหน่งนี้ตั้งแต่เยาวัย อัลลอฮ์ (ซ.บ) ได้กล่าวเกี่ยวกับท่านนบีมูซา (อ.) ว่า 
 

وَلَمَّا بَلَغَ أَشُدَّهُ وَاسْتَوَى آتَيْنَاهُ حُكْمًا وَعِلْمًا وَكَذَلِكَ نَجْزِي الْمُحْسِنِينَ 
 

และเมื่อเขาบรรลุความเป็นหนุ่มและเติบโตเต็มที่แล้ว เราได้ให้ความเข้าใจ และความรู้แก่เขา และเช่นนั้นแหละ เราจะตอบแทนแก่บรรดาผู้กระทำความดี (เกาะศ็อศ / 14) 
 

ข้อแตกต่างระหว่าง “ฮุกม์” กับ “อิลม์” อาจจะอยู่ในจุดนี้ที่ “ฮุกม์” หมายถึงสติปัญญา, ความเข้าใจ, และความสามารถในการตัดสินที่ถูกต้อง แต่ “อิลม์” หมาย ถึงความรู้นั้นเอง จากคำอธิบายนี้ เราจะเห็นได้ชัดว่าท่านนบีมูซาไม่ได้รับผลข้างเคียงจากการที่ต้องอยู่ในวังของฟิรอูนแต่อย่างใด และความอธรรมและโสมมไม่ได้ทำให้เขาต้องแปดเปื้อนไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความแนะนำ

World Clock

Featured Posts

เรื่องราวของสองอารยธรรม : อารยธรรมของชาวไวกิ้งและมุสลิม

เรื่องราวของสองอารยธรรม : อารยธรรมของชาวไวกิ้งและมุสลิม โดย : Cem Nizamoglu และ Sairah Yassir-Deane ย้อนหลังไปถึงมีนาคม 2015 ข่าวเกี่ยวก...