product :

วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ชีวประวัติ นบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (อย่างย่อ) 2

ชีวประวัติ นบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (อย่างย่อ) 2




ชีวประวัติ ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) 2

พ่อค้าที่ซื่อสัตย์

ขณะที่ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) อายุ 20 ปี ท่านทำการค้าขาย โด่งดังในเรื่องความสัจจริง และมีอมานะห์ ท่านหญิงคอดียะห์ได้ยินเรื่องดังกล่าว ดังนั้นนางจึงได้เสนอตัวต่อท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ที่จะให้ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) เข้ามาในการค้าขายของนาง ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ตกลง และก็ออกไปกับคนรับใช้ที่สนิทของท่านหญิง ที่ชื่อมัยซาเราะห์ที่ทำงานกับท่านหญิงคอดียะห์ เมื่อท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) กลับไปที่มักกะห์ ท่านได้กำไรจากการค้าขายมากมาย และในระหว่างทางกลับ ได้มีก้อนเมฆที่อยู่บนท้องฟ้า ได้ให้ร่มเงาแก่ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ปกป้องท่านจากความร้อนของดวงอาทิตย์ มัยซาเราะห์จึงได้กลับไปหา และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับท่านหญิงคอดียะห์ฟัง

การแต่งงานของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.)

ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้แต่งงานกับท่านหญิง คอดิยะฮฺ บินติ คุวัยลิด และท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) มีอายุ 25 ปี และนางมีอายู 40 ปี และมีบุตรกับนาง พวกเขาคือ ซัยหนับ , รุกอยยะฮฺ , อุมมุกัลโซม , ฟาตีมะฮฺ อับดุลลอฮฺ และกอเซ็ม ผู้คนทั้งหลายก็เรียกท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ว่า พ่อของกอเซ็มสืบไปยังลูกชายของท่านนั้นเอง

ความยุติธรรมของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.)

พวกชาวกุเรชได้รวมตัวกัน เพื่อกลับมาบูรณะกะอฺบะฮฺใหม่ และในระหว่างที่บูรณะกัน ชาวกุเรชได้ขัดแย้งกันในเรื่องที่ใครจะเป็นผู้ที่วางหินดำ เพราะผู้ที่วางหินดำในกะอฺบะฮฺเป็นผู้ที่มีเกียรติ และการขัดแย้งเกือบจะกลายเป็นสงคราม
พวกเขาจึงกล่าวว่า : เราจะให้ผู้ที่เข้ามาหาพวกเราเป็นคนแรกตัดสิน
และท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ก็เข้ามา และพวกเขาก็เสนอเรื่องดังกล่าวแก่ท่านท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.)
ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) กล่าวกับพวกเขาว่า : จงวางหินไว้บนผ้า และหัวหน้าเผ่าทุกๆ คนจับปลายผ้า จนกระทั่งวางก้อนหินในกะอฺบะฮฺและพวกเขาก็ทำ หลังจากนั้นท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ก็วางหินดำไว้ในที่ของมัน ด้วยตัวของท่านเองในกะอฺบะฮฺ และดังกล่าวเป็นการเสร็จสิ้นการขัดแย้งและความชั่วร้าย

การลงมาของวะฮีย์

หลังจากที่ท่านท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) อายุ 40 ปี ทำอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) ในถ้ำฮิรอฮฺ และท่านก็พิจารณาไตร่ตรองในการสร้างของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) และเมื่อญิบรีล อะลัยฮิสลาม ได้ลงมายังท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ท่านก็กลัว
และญิบรีลก็พูดกับท่านนบีว่า : จงอ่าน
ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.)ตอบว่า : ฉันอ่านไม่เป็น
ญิบรีลได้พูดกับท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ว่า : จงอ่าน ด้วยกับพระนามของพระเจ้าของเจ้าผู้ทรงสร้างเจ้า
และญิบรีลก็อ่านซูเราะฮฺ อัล-อะลักให้ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ฟัง และเป็นซูเราะฮฺแรกที่ลงมาจากกุรอาน และท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ก็กลับไปหาภรรยาของท่านด้วยความหวาดกลัว และ
พูดกับนางว่า : ห่มผ้าให้ฉันที
หลังจากนั้นท่านก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านหญิงคอดิยะห์ฟัง และนางก็นำเรื่องไปเล่าให้ลูกของลุงของนางฟังที่ชื่อ วะรอกะฮฺ อิบนิ เนาฟัล ที่เป็นผู้รู้ในอิลญีล และเขาก็กล่าวกับนางว่า จงไปบอกข่าวดี แท้จริงเขาคือนบีในสมัยนี้

การเชิญชวนเข้าอิสลาม

ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) เริ่มการเชิญชวนญาติใกล้ชิดของท่านและสหายของท่านไปยังอิสลาม ดังนั้นท่านหญิงคอดิยะฮฺก็ศรัทธา หลังจากนั้นก็ท่านอบูบักร และท่านอาลี บินอบีตอลิบ และท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ก็รวบรวมศอฮาบะฮฺของท่านอย่างลับๆ ในบ้านของดารุลอัรกอม ลูกของอบีอัรกอม เพื่อที่จะสอนเขาในเรื่องราวของศาสนา หลังจากนั้นพวกกุฟฟารก็ทำร้ายบรรดาผู้ที่ศรัทธา

ปีแห่งความเสียใจ

ที่ถูกเรียกว่าปีของความเสียใจเพราะท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) เสียใจอย่างมากมายต่อการเสียชีวิตของท่านหญิงคอดิยะฮฺ และท่านอบูตอลิบซึ่งเป็นลุงของท่าน ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ก็ได้ไปยังเมืองฎออีฟหลังจากดังกล่าว เพื่อเชิญชวมชาวเมืองสู่อิสลาม แต่ว่าพวกเขาได้ทำร้ายท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) และไม่ตอบรับการเชิญชวนของท่าน

อิสรอฮฺและเมี๊ยะอฺรอจ

อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ต้องการที่จะลดความเศร้าของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) โดยให้ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) เดินทางในตอนกลางคืนจากมักกะฮฺไปยังบัยติลมักดีส และละหมาดในมัสยิด หลังจากนั้นก็ขึ้นไปยังฟากฟ้าที่สูงส่ง และอัลลอฮฺ (ซ.บ.) บัญญัติการละหมาดให้แก่ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.)

การอพยพไปยังมะดีนะฮฺ

ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้อพยพไปยังมะดีนะฮฺ หลังจากที่ศอฮาบะฮฺของท่านได้อพยพไปแล้ว และศาสนาของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ก็ได้แพร่หลายที่นั่น และท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ก็ได้เข้าทำสงครามกับมุชริกีนหลายสงคราม เพื่อปกป้องศาสนาของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) และอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ก็ได้ช่วยเหลือนบีของพระองค์ และสนับสนุนท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ด้วยกับบรรดามาลาอิกะฮฺทำการต่อสู้พร้อมกับท่าน เพราะแท้จริงอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้สั่งใช้ที่จะให้ท่านเผยแพร่อิสลามในโลกนี้ เพราะแท้จริง อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะไม่รับศาสนาใดนอกจากศาสนาที่ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) นำมา

การพิชิตมักกะฮฺ

ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้กลับไปยังมักกะฮฺ เพื่อที่จะพิชิตมักกะฮฺในวันที่ 10 เดือนรอมาฎอนในปีที่ 8 ของการอพยพ และจำนวนทหารของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) มี 10,000 คน และท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ก็ละหมาดพร้อมกับศอฮาบะฮฺของท่าน ในกะอฺบะฮฺ และความสัจจริงของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) สัญญาของ อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ต่อท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ในการกลับเข้าไปในกะอฺบะฮฺอีกครั้งหนึ่ง และท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ก็อภัยให้ชาวมักกะฮฺ เพราะแท้จริงท่านเป็นผู้ที่เมตตาและเป็นผู้ที่มีเกียรติ และท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ก็ทำฮัจญ์อำลาในปัฮิจเราะฮฺที่ 10 และบรรดามุสลิมที่อยู่รอบๆ ท่าน ก็ร่วมประกอบพิธีฮัจญ์พร้อมกับท่าน

โรคของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.)

ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ป่วยอย่างรุนแรงถึงขั้นตัวร้อนที่สุด

การเสียชีวิตของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.)

ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) เสียชีวิตในวันที่ 12 เดือนรอบิอุ้ลเอาว้าล จากปีที่ 11 ของการอพยพในเวลาสาย และถูกฝังในห้องของท่านหญิงอาอิซะห์ (ร.ฎ) ใกล้ๆ มัสยิดของท่านในมะดีนะฮฺ และหลังจากที่ ขยายมัสยิดนะบะวี กุโบรของท่านก็เข้าไปอยู่ในมัสยิด ข้าแต่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ขอพระองค์ทรงนำนายของเราท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) และความประเสริฐ และการส่งนบีมา ข้าแต่อัลลอฮฺโปรดทรงให้ที่พำนักที่ได้การสรรเสริญที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้กับนบี และอัลลอฮฺได้สรรเสริญนบี และให้ความสันติสุข พระองค์ให้ความจำเริญแก่นบี และครอบครัวของท่าน และบรรดาศอฮาบะฮฺของท่าน และผู้ที่ติดตามท่านไปยังวันแห่งการตอบแทน

ข้าแต่อัลอฮฺขอพระองค์ทรงโปรดเถิด

วัสสลาม


ที่มา : http://www.islammore.com/


#ประวัติศาสตร์อิสลาม_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความแนะนำ

World Clock

Featured Posts

เรื่องราวของสองอารยธรรม : อารยธรรมของชาวไวกิ้งและมุสลิม

เรื่องราวของสองอารยธรรม : อารยธรรมของชาวไวกิ้งและมุสลิม โดย : Cem Nizamoglu และ Sairah Yassir-Deane ย้อนหลังไปถึงมีนาคม 2015 ข่าวเกี่ยวก...