กอบีลกับฮาบีล
เมื่อพวกเขาย่างเข้าวัยฉกรรจ์ พวกเขารู้ว่าอัลลอฮฺทรงใช้ให้ กอบีลแต่งงานกับลบูดาซึ่งเป็นคู่แฝด ของฮาบีล และให้ฮาบีลแต่งงานกับ อิกลีมา ซึ่งเป็นคู่แฝดของกอบีล ปรากฏว่า อิกลีมาเป็นคนที่สวยที่สุดในขณะนั้น กอบีลจึงต้องการที่จะแต่งงานกับอิกลีมา
ดังนั้นท่านอาดัมก็ได้กล่าวกับกอบีลว่า นางไม่เป็นที่อนุญาตแก่เจ้า กอบีล ได้ปฏิเสธคำตักเตือนของบิดาแล้วท่านอาดัมก็ได้กล่าวขึ้นว่า ท่านทั้งสองจงทำการพลีทาน ดังนั้น พลีทานของใครถูกรับเขาจะได้สิทธิ์ในตัวอิกลีมา
ปรากฏว่า กอบีลเป็นเจ้าของไร่นา เขาได้นำเอาผลผลิตจากการเกษตรที่แย่ที่สุดของเขากองหนึ่งมาเป็นพลีทาน ส่วนฮาบีลเป็นเจ้าของปศุสัตว์เขาได้นำเอาแกะอ้วนตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นแกะที่ดีที่สุด ในบรรดาสัตว์เลี้ยงของเขามาเป็นพลีทาน แล้วทั้งสองก็ได้นำเอาพลีทานของเขาไปวางไว้บนภูเขา แล้วไฟที่มาจากฟากฟ้าก็ได้ลงมากินแกะ โดยไม่ได้กินพลีทานของกอบีล หลังจากที่ทั้งสองได้ลงมาจากภูเขา ทั้งสองได้ถกเถียงกัน กอบีลคิดในใจว่า เขาจะต้องฆ่าฮาบีลให้ได้
{وَاتْلُ عَلَيْهِمْ نَبَأَ ابْنَيْ آدَمَ بِالْحَقِّ إِذْ قَرَّبَا قُرْبَاناً فَتُقُبِّلَ مِنْ أَحَدِهِمَا وَلَمْ يُتَقَبَّلْ مِنْ الآخَرِ قَالَ لأَقْتُلَنَّكَ قَالَ إِنَّمَا يَتَقَبَّلُ اللَّهُ مِنْ الْمُتَّقِينَ. لَئِنْ بَسَطتَ إِلَيَّ يَدَكَ لِتَقْتُلَنِي مَا أَنَا بِبَاسِطٍ يَدِي إِلَيْكَ لأَقْتُلَكَ إِنِّي
أَخَافُ اللَّهَ رَبَّ الْعَالَمِينَ. إِنِّي أُرِيدُ أَنْ تَبُوءَ بِإِثْمِي وَإِثْمِكَ فَتَكُونَ مِنْ أَصْحَابِ النَّارِ وَذَلِكَ جَزَاءُ الظَّالِمِينَ. فَطَوَّعَتْ لَهُ نَفْسُهُ قَتْلَ أَخِيهِ فَقَتَلَهُ فَأَصْبَحَ مِنْ الْخَاسِرِينَ. فَبَعَثَ اللَّهُ غُرَاباً يَبْحَثُ فِي الأَرْضِ لِيُرِيَهُ كَيْفَ
يُوَارِي سَوْأَةَ أَخِيهِ قَالَ يَا وَيْلَتَا أَعَجَزْتُ أَنْ أَكُونَ مِثْلَ هَذَا الْغُرَابِ فَأُوَارِيَ سَوْأَةَ أَخِي فَأَصْبَحَ مِنْ النَّادِمِينَ
ความว่า: “และเจ้า (มูฮัมมัด) จงแถลงให้พวกเขา (วงศ์วานอิสรออีล) รู้ถึงข่าวคราวของบุตรชายสองคนของอาดัมโดยสัจจริง ขณะที่ทั้งสองได้กระทำการพลี ซึ่งสิ่งพลีอยู่นั้น แล้วสิ่งพลีก็ถูกรับจากหนึ่ง ในสองคน และมิได้ถูกรับจากอีกคนหนึ่ง เขา (กอบีล) จึงกล่าวขึ้นว่า แน่นอนข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้
ฮาบีลกล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงรับจากบรรดาผู้ยำเกรงเท่านั้น , หากท่านยื่นมือของท่านมายังฉันเพื่อจะฆ่าฉัน แน่นอนฉันก็จะไม่ยื่นมือของฉันไปยังท่าน เพื่อฆ่าท่าน แท้จริงฉันกลัวอัลลอฮฺผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งโลกทั้งมวล , แท้จริงฉันต้องการที่จะให้ท่านนำบาป (ที่ฆ่า) ฉัน และบาปของท่านเองกลับไป (ยังอัลลอฮฺในวันปรโลกเพื่อรับการลงโทษจากพระองค์) แล้วนั้นแหละคือ การตอบแทนแก่บรรดาผู้อธรรม , แล้วจิตใจของเขา (กอบีล) ก็คล้อยตามเขาในการที่จะฆ่าน้องชายของเขา แล้วกอบีลก็ได้จัดการ ฆ่าน้องชายของเขา ดังนั้นเขาจึงได้กลายเป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ขาดทุน” (อัลมาอิดะฮฺ : 27-30)
นักวิชาการมีความเห็นที่แตกต่าง ถึงวิธีการฆ่าของกอบีล บางท่านกล่าวว่า อิบลีสได้จำแลงร่างมาหากอบีล แล้วนำเอานกมาหนึ่งตัว วางไว้บนแทนหิน แล้วทุบด้วยก้อนหิน กอบีลก็ได้มุ้งหน้ามายังน้องชายของเขาในขณะที่นอนหลับ เขาได้ยกก้อนหินแล้วทุบไปที่หัวของฮาบีลจนตาย เมื่อกอบีลสังหารฮาบีลเรียบร้อยแล้ว กอบีลไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร กับศพของฮาบีลดี อัลลอฮฺจึงได้ส่งอีกามาสองตัว โดยที่หนึ่งจากสองตัวนั้นได้ฆ่าอีกตัวหนึ่ง จากนั้นมันก็ได้ขุดดินแล้วฝังซากของอีกตัวหนึ่งเพื่อให้กอบีลรู้ถึงวิธีการปฏิบัติต่อศพของน้องชายของเขาจากนั้นกอบีลก็ได้ขุดหลุมฝังฮาบีล เช่นเดียวกับอีกา
อัลลอฮฺมิทรงต้องการฆ่ากอบีลเพื่อทำการแก้แค้นให้กับฮาบีล แต่ต้องการให้เขามีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานกับบาปที่เขาได้ก่อขึ้น กอบีลมีความลำบากในการทำไร่นา เพราะไร่นาไม่ได้ให้พืชผลอะไรกับเขาเลย กอบีลอยู่อย่างหลบหนีผู้คน และพเนจรไปเรื่อยตลอดระยะเวลาที่เหลืออยู่ของเขา
เลือดของฮาบีลเป็นเลือดแรกของมนุษย์ ที่ถูกหลั่งบนพื้นดิน ท่านศาสดา (ซ.ล.) ได้กล่าวไว้ว่า “ชีวิตหนึ่งจะไม่ถูกฆ่าโดยอธรรม เว้นเสียแต่ลูกของอาดัมคนแรก (กอบีล) จะต้องรับผิดชอบจากเลือดของ ชีวิตนั้น เพราะเขาเป็นผู้วางแบบฉบับในการฆ่า” เช่นเดียวกับผู้ที่วางแบบฉบับที่ดีให้คนรุ่นหลังได้ปฏิบัติตามเขาผู้นั้นก็จะได้รับผลบุญเท่ากับ ผู้ที่ปฏิบัติตาม และยิ่งมีผู้ปฏิบัติตามมาก เขาก็ยิ่งได้รับผลบุญมากขึ้นเรื่อย ๆ และท่านศาสดามูฮำมัด (ซ.ล.) ยังได้กล่าวอีกว่า
“แท้จริงอัลลอฮฺทรงยกอุทาหรของลูกท่านอาดัมให้กับพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจงยึดเอาจากสิ่งที่ดี ๆ ของพวกเขา และจงละทิ้งสิ่งชั่วร้ายของพวกเขา”
ในขณะที่ฮาบีลถูกฆ่า เขามีอายุได้เพียง 20 ปี ส่วนกอบีลมีอายุได้ 22 ปี ท่านสาลีม บุตรท่านอบีลญะอฺด ฺได้กล่าวว่า เมื่อกอบีลได้ฆ่าน้องชายของเขาท่านอาดัมได้อยู่ในความโศกเศร้า และไม่หัวเราะอีกเลยตลอด 100 ปีที่ผ่านมา จนก็ทั่งได้มีผู้หนึ่งมาหาท่านอาดัม แล้วขอพรให้กับท่านอาดัมว่า“ขออัลลอฮฺทรงให้ท่านมีชีวิตที่ยืนยาว และขอพระองค์ทรงให้ท่านมีเสียงหัวเราะ” แล้วเขาก็บอกข่าวดีแก่ท่านอาดัมว่า เขาจะมีลูกชายอีกคนหนึ่ง ท่านอาดัมจึงหัวเราะออก
หลังจากนั้นไม่นาน ภรรยาของท่านอาดัมก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายโดยไม่มีฝาแฝด นางจึงได้กล่าวขึ้นว่า “ฉันได้รับลูกคนใหม่แทนฮาบีลที่เสียชีวิตไป” แล้วนางก็ตั้งชื่อลูกว่า เชซ (شيث) ซึ่งมีความหมายว่า “ของขวัญจากอัลลอฮฺ” ในขณะที่คลอดเชซนั้น ท่านอาดัมมีอายุครบ 130 ปี และ ได้มีรายงานจากท่านซัร ซึ่งเขาได้กล่าวว่า ฉันได้กล่าวว่า โอ้ท่านศาสดามูฮัมมัด! นบีมีกี่ท่าน? ท่านศาสดาตอบว่า และหนึ่งจากหะดีษมัรฟัวะอฺ ซึ่งรายงานมา
จากท่านอิบนิอับบาสและท่านอบีฮุรอยเราะฮฺว่า แท้จริงในเลาฮิ้ลมะฮฺฟูซได้บันทึกอายุของท่านอาดัมไว้ถึง 1000 ปี ซึ่งอาจจะไม่ขัดกับสิ่งที่อยู่ในคัมภีร์เตารอดที่ว่าท่านอาดัมมีอายุถึง 930 ปีโดยคิดตามสุริยคติ เพราะหากนับตามจันทรคติแล้ว จะเท่ากับ 957 ปี และบวกอีก 43 ปี ในขณะที่อยู่ในสวนสวรรค์ รวมแล้วครบ 1000 ปี
ท่านนบีอาดัมเสียชีวิตในวันศุกร์ ส่วนพระนางฮาวาอฺเสียชีวิตถัดจากท่านนบีอาดัมอีกหนึ่งปี ซึ่งเขาทั้งสองมีลูกด้วยกันถึง 41 คนรวมถึงฮาบีลที่เสียชีวิตไปด้วย
ท่าน อิบนิอิสหากและคนอื่น ๆ ได้กล่าวว่า อัลลอฮฺทรงส่งมะลาอิกะฮฺมาทำการอาบน้ำศพ และพันกะฝั่นในกับท่านนบีอาดัม โดยใช้ผ้า 3 ผืน และได้ขุดลูกหลุมฝังท่านนบีอาดัม หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้กล่าวกับผู้ที่มาในวันนั้นว่า “นี้คือแบบฉบับของลูกหลานอาดัม ในภายภาคหน้า” นักวิชาการบางท่านได้กล่าวว่า หลุมฝังศพของท่านนบีอาดัมอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งบรรดาลูก ๆ หลาน ๆ ของท่านได้เข้ามาเยี่ยมเยียนเขา และทำการระลึกถึงอัลลอฮฺ (ซิกรูลลอฮฺ) ที่หน้าหลุมฝังศพ เหล่าบรรดาลูก ๆ หลาน ๆ ของท่านนบีอาดัมยังคงปฏิบัติตามคำสั่งสอน และใช้บทบัญญัติของท่านนบีอาดัมในช่วงระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ยาวนานนัก อันเนื่องมาจากชัยฏอนมารร้ายยังคงจดจองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา
อ้างจาก Al-azhar 17 เม.ย. 2009 09.50 PM
แหล่งที่มา : มหัศจรรย์อัลกุรอ่าน
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น