การขอ ชาฟะอะฮ์ ของท่านรอซูล (ซ.ล) แก่อุมัตของท่าน
วันกิยามะฮ์
ท่านยิบรีลได้มาหาท่านรอซูล ขณะนั้นท่านรอซูลกำลังนั่งอยู่กับบรรดานบีต่างๆ และสาวกของท่าน แล้วท่านยิบรีลก็ได้กล่าวสลาม "อัสลามูอาลัยก้า ยารอซูลุลลอฮ์" ท่านรอซูลก็ตอบรับสลาม "ว่าอะลัมกุมุสลาม" แล้วท่านก็เห็นยิบรีลร่ำไห้ ท่านรอซูลจึงถามว่า... "โอ้ท่านยิบรีล ท่านอย่าร้องไห้ วันนี้มิใช่เป็นวันที่เศร้าโศก แต่เป็นวันที่ปลาบปลื้ม" ท่านยิบรีล จึงกล่าวตอบว่า "ยารอซูลุลอฮ์ ข้าพเจ้ามิได้ร้องไห้ในส่วนตัวของข้าพเจ้าเลย แต่ความเป็นจริงคือ ประชากรของท่านอีกจำนวนนึงยังอยู่ในนรก พวกเขาได้ถูกทรมานอย่างแสนสาหัส" พวกเขาได้ฝากสลามถึงท่านด้วย และพวกเขาได้กล่าวว่า... "ท่านมีความสุขอยู่ในสรวงสวรรค์ แต่พวกเขาต่างก็ทนทุกข์ทรมานอยู่ในนรก"
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ท่านรอซูลถึงกับร่ำไห้พร้อมกับกล่าวว่า "ข้าพเจ้าไม่รู้เรื่องเลยว่าพวกเขาเหล่านั้นอยู่ในนรกอีกเป็นจำนวนมาก" แล้วท่านรอซูลจึงกล่าวว่า... "โอ้ บรรดานบีทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายจงลุกขึ้นไปพร้อมกับข้าพเจ้าเพื่อไปเข้าเฝ้าพระองค์อัลเลาะฮ์ด้วยกันเถิด"
เมื่อไปถึงท่านรอซูลก็กราบซูญูดต่ออัลเลาะฮ์ และพระองค์อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า.."เจ้าจงวิงวอนต่อเรา และเราจะประทานให้เจ้า" ท่านรอซูลจึงกล่าวสรรเสริญพระองค์ และท่านได้กราบทูลว่า... "อันความจริงมีจำพวกนึงจากประชากรของข้าพเจ้า พวกเขาได้ถูกทรมานอยู่ในนรก โดยที่ข้าพเจ้ามิได้ทราบมาก่อนเลย"
พระองค์อัลเลาะฮ์ทรงมีโองการแก่ยิบรีลว่า "เจ้าพร้อมกับมุฮำหมัดจงไปหาท่านมาเล็กฯ และบอกให้ท่านมาเล็กฯ ปลดปล่อยบรรดาผู้นับถือพระเจ้าองค์เดียว แต่เขาประพฤติชั่วให้ออกจากนรกได้แล้ว"
หลังจากนั้นท่านรอซูลพร้อมกับยิบรีล ก็ไปหาท่านมาเล็กฯ และกล่าวว่า... "ยา-มาเล็กฯ ท่านไม่ละอายใจบางหรือ ? ในการที่ทำทัณฑ์ทรมานปวงประชากรของข้าพเจ้า"
ท่านมาเล็กฯ ก็กล่าวตอบ พร้อมกับมีความละอายว่า... "ที่ข้าพเจ้ากระทำไปนั้น ก็เพราะได้รับโองการจากพระองค์อัลเลาะฮ์ หาได้กระทำโดยลำพังไม่"
แล้วท่านรอซูลก็สั่งให้จัดการปล่อยอุมัตของท่านออกจากขุมนรก ท่านมาเล็กกล่าวว่า.."ยามุฮำหมัด ท่านจงนั่งอยู่ตรงนี้ก่อน เพราะท่านไม่อาจทนดูการทรมานในนรกได้" แต่ท่านรอซูลได้กล่าวขออนุญาตท่านมาเล็ก เพื่อดูว่า ไฟนรกได้ทำอะไรกับประชากรของท่านบาง แล้วท่านรอซูลและยิบรีล ก็ได้เข้าไปในขุมนรก ท่านรอซูล (ซ.ล) ได้ร้องเรียกว่า "ยาอุมม่าตี ยาอุมม่าตี โอ้อุมัตของข้า โอ้อุมัตของข้า" แล้วพวกเขาทั้งหมดก็พากันมาหาท่านรอซูล ทุกคนต่างก็ร่ำไห้ ท่านรอซูลก็พลอยร่ำไห้ตามพวกเขาไปด้วย
ท่านรอซูลกล่าวว่า.. "ข้าพเจ้าไม่ทราบเลยว่า ท่านทั้งหลายต้องทุกข์ทรมานอยู่ในนรกเป็นเวลานานเช่นนี้"
หลังจากนั้น ท่านรอซูลได้มองไปยังรอบๆ นรก เห็ํนเด็กน้อยจำนวนมากกำลังร้องให้อยู่ขอบๆ นรก ในมือของเด็กเหล่านั้นถือน้ำทิพย์จากสระน้ำเกาซัร ท่านรอซูลก็ร่ำไห้อีก เพราะความเวทนาสงสาร
เด็กๆ เหล่านั้นได้กล่าวต่อท่านรอซูลว่า... "ยารอซูลุลลอฮ์ ท่านได้ทอดทิ้งบิดา-มารดาของพวกเราไว้ในขุมนรก ปล่อยให้ถูกทรมานอย่างแสนสาหัส"
หลังจากนั้น ท่านรอซูลได้กล่าวว่า... "จงเอาปวงประชากรของข้าฯ ออกจากนรกให้หมด"
เมื่อกาฟิรได้ยิน พวกเขากล่าวว่า... "ยา-มาเล็กฯ พวกเราจะขอออกจากนรกด้วย"
ท่านมาเล็กฯ กล่าวว่า... "โอ้ พวกคนชั่วช้า ประชากรที่ได้ออกจากนรกนั้นคือประชากรของท่านรอซูลุลอฮ์ต่างหาก เพราะท่านรอซูลได้ให้ความสงเคราะห์พวกเขา" พวกกาฟิร กล่าวอย่าง ลมๆ แล้งๆ ว่า "หวังว่าพวกเราจะเป็นประชากรของท่านรอซูลด้วยเหมือนกัน"
เมื่อประชากรเหล่านั้นได้ออกจากนรก พวกเขาก็ไปหาลูกๆ ของเขาพร้อมกับกล่าวว่า "โอ้ลูกรัก จงให้น้ำดื่มข้าหน่อย ข้ากระหายน้ำเหลือเกิน"
บรรดาเด็กๆ เหล่านั้นตอบว่า... ท่านไม่ใช่ บิดา-มารดา ของเรานี่ ? ฝ่ายบิดา-มารดาก็กล่าวยืนยันว่า... "เราทั้งสองนี่แหละคือ บิดา-มารดาของเจ้า การที่ดวงหน้าของเราเปลี่ยนแปลง เนื่องจากถูกไฟนรกเผาผลาญนั้นเอง"
เมื่อได้ฟังคำยืนยันแล้ว เด็กๆ เหล่านั้นก็ให้น้ำดื่มแก่บิดา-มารดาของตนได้ดื่มจนพอเพียง
จากนั้น อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า... ให้ยิบรีลพาพวกเขาไปชำระล้างร่างกาย ที่บะห์ริลฮ่ายาต (ทะเลแห่งความเป็น) เมื่ออกมาจากทะเลแห่งนั้น ร่างกายของพวกเขาจะผุดผ่องมีราศี รูปงามเหมือนนบียูซุป มารยาทและอุปนิสัยเหมือนท่านนบีมุฮำหมัดฯ แต่ที่หน้าผากของพวกเขายังมีรอยจารึกว่า "นีคือผู้ซึ่งถูกปลดปล่อยออกจากนรก" เมื่อพวกเขาได้เข้าไปยังสวรรค์ ชาวสวรรค์กล่าวกันว่า "พวกเราไปต้อนรับประชากรผู้พ้นโทษจากนรกกันเถิด" และพวกเขาก็ได้เห็นข้อความที่จารึกอยู่ที่หน้าผากของประชากรเหล่านั้นว่า "อุติก้อมีนันนารฺ" "ผู้ซึ่งถูกปลดปล่อยออกจากนรก"
ประชากรผู้พ้นโทษเหล่านั้น เห็นประชากรชาวสวรรค์ได้แลข้อความซึ่งจารึกอยู่ที่หน้าผากของพวกตน พวกเขาจึงรู้สึกละอายอย่างยิ่ง จึงได้กราบทูลต่อท่านรอซูลว่า... "ยา-รอซูลุลลอฮ์ ความจริงพวกเราทั้งหลายรู้สึกมีความละอายต่อประชากรชาวสวรรค์เหลือเกิน เพราะพวกเราทุกคนต่างก็มีข้อความจารึกที่หน้าผากว่า.."อุติก้อมีนันนารฺ" "ขอให้ท่านรอซูลวิงวอนขอต่ออัลเลาะฮ์ให้ทรงลบล้างข้อความนั้นให้หายไปจากหน้าผากของพวกเราด้วยเถิด"
จากนั้นพระองค์อัลเลาะฮ์ก็ทรงลบล้างข้อความดังกล่าวออกจากใบหน้าของพวกเขา..
จากหนังสือ... ตัมบีฮุ้ลกอฟิลีน.
แหล่งที่มา : Al - Ameen
#God_Islamic_Society_Online
#เรื่องเล่าคติเตือนใจ_Islamic_Society_Online
#นานาทัศนคติ_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น