product :

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

คำนิยาม : การถือศีลอด

คำนิยาม : การถือศีลอด


การถือศีลอด (อัซซิยาม)


ข้อกำหนดทางนิติศาสตร์ หลักฐาน และเคล็ดลับการถือศีลอด

คำนิยาม :

อัซซิยาม ตามหลักภาษา : หมายถึง การอดกลั้น ไม่ว่าจะเป็นการอดกลั้นคำพูด หรือการอดกลั้นอาหาร

หลักฐานในเรื่องนี้ได้แก่คำดำรัสของอัลเลาะห์ ตาอาลา ที่เล่าถึงมัรยัมว่า :

ฉันได้บนบานว่าจะอดกลั้นไม่พูดจา เพื่อผู้ทรงเมตตายิ่ง ( มัรยัม 26 )

อัซซิยาม : ตามหลักศาสนา หมายถึง การอดกลั้นไม่กระทำการใดๆ ที่จะทำให้เสียการถือศิลอดตั้งแต่แสงอรุณขึ้นจนตะวันลับขอบฟ้า พร้อมด้วยเนียต

ประวัติการบัญญัติให้ถือศิลอด


การถือศิลอดในเดือนรอมฎอน ถูกบัญญัติให้เป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ ในเดือนชะอฺบาน ปีฮิจเราะห์ที่สอง ก่อนหน้านั้นการถือศิลอดได้เป็นสิ่งที่รู้กันในประชาชาติยุคก่อนๆ เป็นอย่างดีอยู่แล้ว และในหมู่ชาวคัมภีร์ที่อยู่ในสมัยเดียวกับท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ ( ซ.ล ) อัลเลาะห์ ตาอาลา ทรงตรัสว่า

ผู้มีศรัทธาทั้งหลายเอ๋ย การถือศิลอดได้ถูกกำหนดเป็นหน้าที่เหนือพวกเจ้า เช่นเดียวกับที่ได้กำหนดเหนือบุคคลในยุคก่อนพวกเจ้ามาแล้ว แน่นอนพวกเจ้าจะมีคุณธรรม ( อัลบากอเราะห์ 183 )

แต่การกำหนดให้ถือศิลอดในเดือนรอมาฎอนนั้น ยังไม่เคยถูกบัญญัติมาก่อนเลย ประชากรของท่านนบีมุฮำหมัด ( ซ.ล ) กับประชากรในยุคก่อนๆ มีส่วนร่วมกันในการถือศิลอดเท่านั้น แต่การกำหนดให้ถือศิลอดในเดือนรอมาดอนโดยเฉพาะนั้น เกิดแก่ประชากรของท่านนบีมุฮำหมัด ( ซ.ล ) เพียงประชาชาติเดียว

หลักฐานในการบัญญัติให้ถือศิลอดเดือนรอมาดอน


หลักฐานในการบัญญัติให้การถือศิลอดในรอมฎอนเป็นหน้าที่จำเป็น ( ฟัรดู ) ได้แก่คำดำรัสของอัลเลาะห์ ตาอาลา ที่ว่า :

เดือนรอมาฎอน เป็นเดือนที่กรุอานถูกประทานลงมาเป็นทางนำแก่มวลมนุษย์ เป็นคำแจกแจง ที่มาจากแนวทางถูกต้องและแยกสัจจธรรม ออกจากความมดเท็จ ดังนั้นคนใดในหมู่พวกท่านที่ปรากฏตัวอยู่ (ไม่ได้เดินทาง) ในเดือนนี้ให้เขาจงถือศิลอดเถิด ( อัลบากอเราะห์ 185 )

และได้แก่คำดำรัสของท่านนบี ( ซ.ล ) ที่ว่า :

อิสลามถูกตั้งอยู่บนหลักห้าประการ ได้แก่ปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าที่ถูกสักการะโดยเที่ยงแท้ นอกจากอัลเลาะห์เท่านั้น และมูฮำหมัดเป็นศาสนทูตของอัลเลาะห์ ดำรงละหมาด จ่ายซะก๊าต ประกอบพิธีฮัจย์ และถือศิลอดในเดือนรอมาดอน รายงานโดย บุคอรี ( 8 ) มุสลิม ( 6 ) และท่านอื่นๆ

ข้อกำหนดของผู้ที่ไม่ถือศิลอดในเดือนรอมาดอนโดยไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ :


เมื่อการถือศีลอดเดือนรอมฎอน เป็นเสาหลักสำคัญประการหนึ่งของอิสลาม และเป็นหน้าที่จำเป็นที่รู้กันโดยทั่วไป ผู้ปฏิเสธการถือศิลอดว่าไม่ใช่เป็นหน้าที่ ( ฟัรดู ) ที่ต้องปฏิบัติ ผู้นั้นสิ้นสภาพการเป็นมุสลิม หมายความว่าให้ปฏิบัติต่อเขาในฐานะเป็นมุรตัด ให้เรียกตัวมาเพื่อทบทวนให้สำนึกผิด ( เตาบัต ) ถ้าหากเขาสำนึกผิดให้ยอมรับการสำนึกผิดของเขา และถ้าเขาไม่สำนึกผิด ก็จะถูกลงโทษถึงขั้นประหารชีวิต ทั้งนี้มีข้อแม้ว่าเขาไม่ใช่เป็นผู้ที่เพิ่งเข้ารับอิสลามใหม่ๆ หรือเขาอยู่ห่างไกลผู้รู้ ส่วนผู้ที่ๆ ไม่ถือศีลอดโดยไม่มีความจำเป็นใดๆ แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธการถือศีลอดว่าไม่ใช่เป็นหน้าที่ ( ฟัรดู ) ที่เขาต้องปฏิบัติ เช่นเขาพูดว่า การถือศีลอดเป็นหน้าที่ของฉัน แต่ฉันไม่ปฏิบัติ ดังนี้ถือว่าเขาเป็นคนละเมิด เป็นคนชั่ว ไม่ถึงขั้นการสิ้นสภาพการเป็นมุสลิม และถือเป็นหน้าที่ของผู้นำมุสลิมจะต้องคุมขังเขา และให้เขางดอาหารและเครื่องดื่มในเวลากลางวันเพื่อให้เขาได้ถือศีลอด แม้เป็นเพียงรูปภายนอกก็ตาม

เคล็ดลับ ( ฮิกมะห์ ) และคุณประโยชน์บางประการของการถือศีลอด :


มุสลิมทุกคนต้องทราบก่อนว่า การถือศีลอดเดือนรอมฎอนเป็นอิบาดะห์ที่อัลเลาะห์กำหนดให้เป็นหน้าที่ต้องปฏิบัติ ความหมายที่ว่าเป็นอิบาดะห์ ก็คือมุสลิมจะต้องน้อมรับมาปฏิบัติด้วยความเต็มใจในฐานะเป็นบ่าวของอัลเลาะห์ โดยไม่ต้องมองไปที่ผลลัพธ์ของการถือศีลอดว่าจะให้ผลแก่เขาเป็นประการใดเมื่อได้ปฏิบัติเช่นนี้แล้ว ก็ไม่ขัดข้องที่จะมองดู และพิจารณาเคล็ดลับต่างๆ ของพระเจ้าที่แฝงไว้กับการถือศีลอด และอิบาดะห์อื่นๆ ไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าข้อกำหนดต่างๆ ของอัลเลาะห์ทั้งหมดนั้นมีเคล็ดลับแฝงอยู่และเป็นคุณประโยชน์แก่บ่าวของพระองค์ แต่ไม่บังคับให้บ่าวของพระองค์ต้องรับรู้คุณประโยชน์และเคล็ดลับเหล่านั้น

เป็นที่แน่นอนว่าในการถือศีลอดนั้น ย่อมมีคุณประโยชน์และเคล็ดลับแฝงอยู่มากมาย ซึ่งบางส่วนก็ได้รับการเปิดเผยแล้ว แต่คงเหลืออีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย และส่วนหนึ่งที่ได้รับการเปิดเผยแล้วก็คือ :

  1. การถือศีลอดที่ปฏิบัติถูกต้อง จะปลุกและเร่งเร้าจิตใจของมุสลิมให้เกิดสำนึกขึ้นว่าตนเองถูกควบคุม และติดตามดูพฤติการณ์จากอัลเลาะห์ ตาอาลา ทั้งนี้เพราะในเวลากลางวันผู้ที่ถือศีลอดจะเกิดความหิวและกระหาย เขาเกิดความอยากอาหารและเครื่องดื่ม แต่ความรู้สึกของเขาที่ว่ากำลังถือศีลอดอยู่จะขัดขวางเขาไว้ไม่ให้เขากระทำตามความต้องการและตามจิตปรารถนา เพื่อสนองคำบัญชาของอัลเลาะห์เจ้า และในช่วงของการต่อสู้กันนี้ หัวใจของเขาจะตื่น ความสำนึกว่าถูกควบคุมและติดตามดูพฤติการณ์ จากอัลเลาะห์ ตาอาลา เพิ่มสูงขึ้น เขาจะรำลึกอยู่เสมอถึงความยิ่งใหญ่และเกรียงไกรของพระองค์ และจะรู้สึกตัวอยู่เสมอว่าเขาเป็นบ่าวที่ต้องยอมรับและสนองตอบคำบัญชาของพระองค์
  2. เดือนรอมฎอนเป็นเดือนศักศิทธิ์และสำคัญยิ่ง ที่อัลเลาะห์ให้บ่าวของพระองค์บรรจุความดีและกุศลต่างๆ ให้เต็มทั้งเดือนและเพื่อทำให้ความหมายของความเป็นบ่าวของอัลเลาะห์ เป็นจริงขึ้นมา ซึ่งการดังกล่าวนั้นจะเกิดขึ้นได้ยาก ตราบที่ยังมีสำรับอาหารและถาดเครื่องดื่มวางอยู่เบื้องหน้ากระเพาะเต็มไปด้วยอาหารที่คอยรบกวนสมาธิและมันสมอง การถือศีลอดในเดือนนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ภารกิจและหน้าที่ของความเป็นบ่าวสมบูรณ์
  3. การถือศีลอดจะช่วยขัดเกลาและขำระนิสัยที่หยาบกร้านตลอดจนความเห็นแก่ตัวให้นุ่มนวลและลดน้อยลง
  4. หลักสำคัญที่ทำให้สังคมมุสลิมเจริญรุ่งเรืองก็คือการที่มุสลิมมีความเอื้ออาทรและเมตตาสงสารซึ่งกันและกัน เป็นการยากที่คนรวยจะเกิดมีความเมตตาสงสารคนยากจนอย่างแท้จริงขึ้นได้ โดยไม่มีความเจ็บปวดของความขัดสน และความขืนขมของความหิวโหยมาสลับฉากความร่ำรวย และความอิ่มหนำสำราญ ดังนั้นการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน จะเป็นตัวกระตุ้นและเร่งเร้าคนรวยให้มีความเมตตาและสงสารคนยากจนได้ดีที่สุด

แหล่งที่มา : https://siammuslim.wordpress.com/


#นิติศาสตร์อิสลาม_Islamic_Society_Online
#เรื่องเล่าคติเตือนใจ_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความแนะนำ

World Clock

Featured Posts

เรื่องราวของสองอารยธรรม : อารยธรรมของชาวไวกิ้งและมุสลิม

เรื่องราวของสองอารยธรรม : อารยธรรมของชาวไวกิ้งและมุสลิม โดย : Cem Nizamoglu และ Sairah Yassir-Deane ย้อนหลังไปถึงมีนาคม 2015 ข่าวเกี่ยวก...