อุมัร อิบนุ อับดุลอะซีซ นักฟื้นฟูแห่งศตวรรษแรกของอิสลาม
อุมัร อิบนุ อับดุลอะซีซ คือ นักฟื้นฟูแห่งศตวรรษแรกของอิสลาม อิหม่ามอะหฺมัด อิบนุ หัมบัล เป็นบุคคลแรกที่ประกาศออกมาเช่นนี้ บรรดานักวิชาการก็ไม่ได้ขัดแย้งใดๆ ต่อทัศนะดังกล่าว
ในสมัยการปกของของบนูอมัยยะฮฺนั้น การสืบทอดอำนาจการเป็นคอลีฟะฮฺ จะเป็นไปในลักษณะของการสืบสันตติวงศ์ และจำกัดวงอยู่แต่ในบรรดาผู้ที่เป็นเชื้อสายมาจากบนูอุมัยยะฮฺเท่านั้น จนกระทั่งคอลีฟะฮฺสุลัยมานขึ้นมามีอำนาจ ซึ่งในการแต่งตั้งรัชทายาทของพระองค์นั้น คอลีฟะฮฺสุลัยมานได้ขอคำแนะนำจากบรรดาบุตรหลานของศอฮาบะฮฺของท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม) พวกเขาแนะนำให้คอลีฟะฮฺสุลัยมานเลือกอุมัร อิบนุ อับดุลอะซีซขึ้นเป็นรัชทายาท
เมื่ออุมัร อิบนุอับดุลอะซีซได้รับการคัดเลือก ประชาชนก็แบกท่านขึ้นไปบนมิมบัร ท่านได้กล่าวสรรเสริญต่ออัลลอฮฺ (สุบหานะฮูวะตะอาลา) และกล่าวว่า “โอ้ประชาชนทั้งหลาย ภารกิจการเป็นคอลีฟะฮฺนี้ ได้ตกอยู่กับข้าพเจ้าโดยที่ข้าพเจ้าไม่รู้ตัวมาก่อน ข้าพเจ้าไม่ได้ร้องขอ และไม่ได้รับการปรึกษาหารือใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้ข้าพเจ้าขอสละสิทธิ เพื่อว่าพวกท่านจะได้เลือกคอลีฟะฮฺ จากบุคคลในบรรดาพวกท่านเอง” ประชาชนทั้งหลายก็ร้องตะโกนขึ้นว่า “เราได้เลือกท่านแล้วโอ้อุมัร และได้ยอมรับให้ท่านเป็นคอลีฟะฮฺของเรา!”
นั่นเป็นการฟื้นฟูครั้งแรกของอุมัร อิบนุอับดุลอะซีซ ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงการสืบทอดตำแหน่งคอลีฟะฮฺจากระบบการสืบสันตติวงศ์มาเป็นระบบการปรึกษาหารือ (ชูรอ) ที่มุสลิมเลือกผู้ปกครองของพวกเขาเอง อุมัรเริ่มขบวนการการฟื้นฟูของท่านอย่างตั้งใจจริง ท่านได้ล้มเลิกสิ่งฟุ่มเฟือยต่าง ๆ ซึ่งคอลีฟะฮฺก่อนหน้าท่านเคยใช้ ได้ยกเลิกอภิสิทธิ์ต่าง ๆ ที่ครอบครัวและเครือญาติของคอลีฟะฮฺเคยได้รับ ท่านได้ให้ภรรยาของท่านเลือกระหว่างการอยู่กับท่านต่อไป กับการคงไว้ซึ่งความมั่งคั่งที่บิดาของนางมอบให้ นางได้เลือกที่จะอยู่กับท่าน และได้มอบเครื่องประดับของนางให้แก่บัยตุลมาลในที่สุด
ประการถัดมา อุมัรก็ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในรัฐบาลโดยไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้เห็น ท่านได้แต่งตั้งนักกฎหมายจากบรรดาผู้ที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นผู้ที่ยึดมั่นในความถูกต้องและยำเกรงต่ออัลลอฮฺ และได้ปลดนักกฎหมายที่ทุจริตออกไป ท่านได้ยกเลิกภาษีบางประการ และได้กระจายความมั่งคั่งอย่างเป็นธรรม ท่านได้ทำให้การเก็บรวมรวมซะกาตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งไม่มีใครเลยที่มาเรียกร้องซะกาตจากท่าน และจนกระทั่งพนักงานแจกจ่ายซะกาตไม่สามารถหาผู้ที่มีสิทธิรับซะกาตได้
หลังจากนั้นท่านได้ดำเนินการในการชำระล้างจิตใจของมุสลิมให้บริสุทธิ์ ตลอดจนส่งเสริมบรรยากาศแห่งจริยธรรมให้เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เองท่านจึงผลักดันให้นักวิชาการ เผยแผ่ความรู้ที่ถูกต้องของอิสลาม ให้แก่บรรดามุสลิม และเชิญชวนคนต่างศาสนิกให้มานับถือศาสนาอิสลาม ท่านได้ต่อสู้กับความเชื่อที่ออกนอกลู่นอกทาง และสิ่งบิดอะฮฺซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่สมัยผู้ปกครองก่อนหน้าท่าน ท่านได้คืนสิทธิต่าง ๆ แก่ชาวคัมภีร์ตามที่อัลกุรอานบัญญัติ ท่านได้บัญชาให้นักวิชาการรวบรวมและบันทึกหะดีษของท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม) และคำอ้างอิงของศอฮาบะฮฺ (รอฎิยัลลอฮุ อันฮุม) นี่นับว่าเป็นขบวนการในการบันทึกหะดีษที่มีระบบขบวนการแรกเลยทีเดียว
การฟื้นฟูดังกล่าวของอุมัรมีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่ออุมมะฮฺมุสลิม และด้วยเหตุนี้เอง ท่านจึงได้รับการยกย่องให้เป็นนักฟื้นฟูในศตวรรษแรกแห่งอิสลาม
ที่มา : เศาะลาฮุดดีน กับ สงครามครูเสด
#ประวัติศาสตร์อิสลาม_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น