อัลกุดส์ (เยรูซาเล็ม) ในหน้าประวัติศาสตร์
ประวัติมัสยิดอัลอักซอ ณ.“บัยตุ้ลมักดิส"
ชื่อภาษาอาหรับที่ใช้เรียกบริเวณเมืองเยรูซาเล็ม ตรงที่เป็นที่ตั้งของมัสยิดอัลอักซอ ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “บัยตุ้ลมักดิส” หรือ “บัยตุ้ลมุก็อดดัส”
อัลกุดส์ (ดินแดนปาเลสไตน์) มีความสำคัญสำหรับมุสลิมก็เพราะเป็นที่ตั้งของมัสยิดอัลอักซอ มัสยิดที่นบีสุไลมาน (อะลัยฮิสลาม) สร้างขึ้นและถูกใช้เป็นกิบลัตแรก (ทิศที่มุสลิมหันหน้าไป เวลาละหมาด) แห่งแรกมาจนกระทั่งสมัยของท่านนบีมุฮัมหมัด (ศ้อลฯ) ก่อนที่จะมีบัญชาจากอัลลอฮให้เปลี่ยนมาเป็นกะอบะฮแทน นอกจากนี้แล้วมัสยิดอัลอักซอยังเป็นศาสนสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์อิสลามอันเนื่องมาจากการที่มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ในการเดินทางของคืนหนึ่ง (อิสรออฺ) สู่บัยตุลมักดิส (เยรูซาเล็ม) ที่ที่ท่านได้เป็นผู้นำละหมาดแก่บรรดาท่านนบีคนอื่นๆ ที่มัสยิดอัลอักซอแห่งนี้ก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นสู่ฟากฟ้าเบื้องสูงในเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า “อิสรออและมิอ์รอจญ์”
อัลลอฮฺ (ซบ.)ได้กล่าวว่า
سُبْحَانَ الَّذِي أَسْرَىٰ بِعَبْدِهِ لَيْلًا مِّنَ الْمَسْجِدِ الْحَرَامِ إِلَى الْمَسْجِدِ الْأَقْصَى الَّذِي بَارَكْنَا حَوْلَهُ لِنُرِيَهُ مِنْ آيَاتِنَا إِنَّهُ هُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ
“มหาบริสุทธิ์ผู้ทรงนำบ่าวของพระองค์ เดินทางในเวลากลางคืน จากมัสยิดอัลหะรอม ไปยังมัสยิดอัลอักซอ ซึ่งบริเวณรอบมัน เราได้ให้ความจำเริญ เพื่อเราจะให้เขาเห็นบางอย่าง จากสัญญาณต่างๆ ของเรา แท้จริงพระองค์ คือ ผู้ได้ยิน ผู้ทรงเห็น” (ซูเราะฮฺ อัลอิสรออฺ 17-1)
และเป็นหนึ่งในสามมัสยิด ที่ผู้คนเดินทางมา โดยมีเป้าหมายเพื่อการอิบาดะฮฺต่อ อัลลอฮฺ (ซบ.) ตามหะดีษที่รายงานโดย อิมาม บุคอรียฺและอิมามมุสลิม ซึ่งรายงานมาจาก อบู ซัรรฺ (รอดิยัลลอฮุ อันฮุ)
โดยเขากล่าวว่า:ครั้งหนึ่ง ฉันได้ถามท่านนบีว่ามัสยิดอะไรเป็นมัสยิด แรกที่ถูกสร้างขึ้นบนโลก “มัสยิดที่ถูกสร้างขึ้นมา บนแผ่นดินเป็นแห่งแรกคือมัสยิด อัลหะรอม (ในมักกะฮฺ) หลังจากนั้น มัสญิดอัล-อักซอ” ฉันถามต่อว่า มีระยะเวลาห่างเท่าไหร่ ระหว่างสองมัสยิดนี้? ท่านตอบว่า “สี่สิบปี ดังนั้น ไม่ว่าเจ้าจะอยู่มัสยิดไหน (ระหว่างสองมัสยิดนี้) เมื่อเข้าเวลาละหมาด เจ้าจงละหมาด เพราะนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะปฏิบัติ”
เมื่ออัลกุดส์ตกอยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิมครั้งแรกในสมัยคอลีฟะห์อุมัร ประมาณปี ค.ศ. 638 คอลีฟะห์อุมัรได้ดำเนินนโยบายเปิดให้อัลกุดส์เป็นแผ่นดินสำหรับผู้ศรัทธาในพระเจ้าไม่ว่าจะเป็นคริสเตียนหรือมุสลิมให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยกำหนดให้ชาวคริสเตียนต้องจ่ายภาษียิซยะห์แก่รัฐบาลกลางเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับความคุ้มครองปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินและเสรีภาพในการนับถือศาสนา อัลกุดส์อยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิมมาเป็นเวลานานนับร้อยปี จึงได้ถูกพวกคริสเตียนเข้ามายึดครองในสมัยสงครามครูเสด
อัลกุดส์ยึดกลับคืนมาเป็นของมุสลิมอีกครั้งหนึ่งใน ค.ศ.1187 โดย ซอลาฮุดดีน อัลอัยยูบี แม่ทัพมุสลิมนามอุโฆษที่โลกตะวันตกรู้จักดีกันในนาม “ซาลาดิน” ซอลาฮุดดีนดำเนินนโยบายการปกครองอัลกุดส์เช่นเดียวกับคอลีฟะห์อุมัร แต่หลังจากนั้นประมาณ 50 ปี อัลกุดส์ก็ตกเป็นของฝ่ายคริสเตียนอีกและหลังจากนั้นไม่นานฝ่ายมุสลิมก็สามารถยึดคืนกลับมาได้ในสมัยของราชวงศ์มัมลู้ก แห่งอียิปต์
หลัง ค.ศ. 1516 อัลกุดส์ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักอุสมานียะห์ หรือ ออตโตมานเติร์ก นับเป็นเวลาหลายร้อยปี เมื่อยุโรปมีความเจริญเข้มแข็งขึ้นในขณะที่อาณาจักรอุสมานียะห์เสื่อมอำนาจลงในปี ค.ศ.1881 ชาวยิวจากทั่วโลกก็เริ่มอพยพกันเข้าไปในอัลกุดส์มากขึ้นด้วยคำอ้างตามความเชื่อว่าแผ่นดินตรงนี้คือแผ่นดินที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ให้แก่พวกตน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 อัลกุดส์ตกเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินปาเลสไตน์ใต้อาณัติของอังกฤษและพวกยิวได้รับโอกาสให้อพยพเข้ามาอยู่ในดินแดนแห่งนี้มากขึ้นจนเกิดการต่อต้านจากชาวอาหรับที่อาศัยอยู่เดิมตลอดมา หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ใน ค.ศ. 1948 สหรัฐอเมริกา อังกฤษและรัสเซีย ได้สมยอมกันให้ชาวยิวตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นในแผ่นดินปาเลสไตน์ซึ่งผนวกเอาอัลกุดส์เข้าไว้ในอิสราเอลด้วย และนับแต่นั้นเป็นต้นมา ขบวนการชาตินิยมชาวยิว หรือ ขบวนการไซออนิสต์ก็พยายามหาหนทางที่จะสถาปนาอัลกุดส์หรือเยรูซาเล็มให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลโดยสมบูรณ์
ท่าน นบีดาวุด อะลัยฮิสลาม ได้เลือกเมืองเยรูซาเล็มตามคำบัญชาของอัลลอฮฺ ประมาณหนึ่งพันปีก่อนคริสตศักราช หลังจากนั้นลูกชายของเขาคือ ท่านนบี สุลัยมาน อะลัยอิสลาม ได้สร้างมัสญิดในเมืองเยรูซาเล็มตามวิวรณ์ที่ท่านได้รับจากอัลลอฮฺ ตะอาลา นับเป็นเวลาหลายศตวรรษที่บรรดานบีและศาสนทูตของอัลลอฮฺได้ใช้มัสญิดแห่งนี้ เพื่อการเคารพสักการะอัลลอฮฺ จนกระทั่งชาวบาบิโลน ได้เข้าทำลายในปี 586 ก่อนคริสตศักราช แต่ไม่นานมันก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูและคืนสู่การใช้เพื่อการเคารพสักการะอัล ลอฮฺในปี 516 ก่อนคริสตศักราช และ ถูกใช้ไปอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นอีกหลายศตวรรษจนกระทั่งถึงยุคของท่านนบี อีซา อะลัยฮิสลาม เมื่อท่านออกไปจากโลกนี้ พวกโรมันก็เข้ามา ทำลายเมืองแห่งนี้ในปีที่ 70 ของคริสต์ศักราช
มัสยิดที่เป็นสถานที่ละหมาดหลักนั้นไม่ใช่โดมศิลาทอง (Dome of the rock ) หรือมัสยิดอัลซอกห์เราะห์ (Al Sakhrah) แต่เพราะว่ารูปภาพของโดมนั้น มีอย่างแพร่หลาย มีมุสลิมจำนวนไม่น้อย คิดว่าเมื่อพวกเขาเห็นมันแล้ว นั่นก็เป็นมัสยิดอัลอักซอ นี่ไม่ใช่ความจริง มัสยิดนี้ ตั้งอยู่ตอนใต้ของเนิน ส่วนโดมศิลาถูกสร้างคลุมหินลอย (raised rock) ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของที่ราบสูง
มัสยิดอัลอักซอ ณ.“บัยตุ้ลมักดิส” |
มัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) เป็นศาสนสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์อิสลามอันเนื่องมาจากการที่มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ในการเดินทางของคืนหนึ่ง (อิสรออฺ) สู่บัยตุลมักดิส (เยรูซาเล็ม) |
ซุ้มประตูทางเขัาอาคารมัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) |
อีกมุมซุ้มประตูทางเขัาอาคารมัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) |
ภายนอกอาคารมัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) |
ฝ้าเพดานของโดมกับข้อความจากอัล-กุรอานภายในมัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) |
ภายในตรงกลางโดมมัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) |
ภายในอาคารมัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) ส่วนกลางด้านหน้ามิมบัร |
ภายในอาคารมัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque )ส่วนกลางด้านหลังมิมบัร |
ภายในอาคารมัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) พื้นปูด้วยพรมสีแดง |
ชั้นใต้ดินของมัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) |
มัสยิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque) มัสยิดที่นบีสุไลมานสร้างขึ้นและถูกใช้เป็นกิบลัตแรก |
ด้านทิศตะวันตกของอาณาเขตมัสยิดอัลอักซอ หรือที่เรียกว่า “อัลหะรอม- อัลชารีฟ” เป็นศาสนสถานที่สำคัญเป็นอันดับ 3 |
บริเวณมัสยิดอัล-อักซอ (Al-aqsa) ในยามคำคืน |
มัสยิดอัล-อักซอ (Al-aqsa) ในยามคำคืน |
แหล่งที่มา
บทบรรยาย : http://alisuasaming.org/
บทความ : มหัศจรรย์อัลกุรอ่าน
#อารยธรรมอิสลาม_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น