การเป่าแตรสังข์ของมลาอิกะห์...อิสรอฟีล
แตรสังข์มีลักษณะคล้ายเขาสัตว์ อัลลอฮฺจะทรงบัญชาให้มลาอิกะฮฺ อิสรอฟีล เป่าแตรสังข์ครั้งแรกซึ่งจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในชั้นฟ้าและแผ่นดินมลายสิ้นหมด เว้นแต่ผู้ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ให้ดำรงชีวิตอยู่เท่านั้น จากนั้นพระองค์จะทรงบัญชาให้มีการเป่าแตรสังข์ครั้งที่สอง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะฟื้นคืนชีพมาตามเดิมอีกครั้ง
อิสรอฟีล ผู้มีหน้าที่เป่าแตรสองครั้ง
อิสรอฟีล (ภาษาอาหรับ: اسرافيل ) มลาอิกัตท่านหนึ่งในสิบท่านที่สำคัญที่สุด อิสรอฟีลมีหน้าที่เป่าแตรสองครั้ง การเป่าครั้งแรกเป็นการประกาศจุดจบของโลก อันเป็นเหตุให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในฟากฟ้าและแผ่นดินตระหนกตกใจ จนม้วยมรณะ เมื่อเป่าครั้งที่สองทุกชีวิตที่ได้ตายไปแล้วทั้งหมดในอดีตก็จะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อไปชุมนุมที่ อัลมะฮฺชัร เพื่อรับฟังการพิพากษา
เมื่อแตรถูกเป่าครั้งแรก จักรวาลจะแตกสลาย สิ่งมีชีวิตมอดม้วยเกือบทั้งสิ้น
อัลกุรอานไม่ได้ระบุถึงนามอิสรอฟีล แต่ได้ระบุถึงการเป่าแตรสองครั้งดังกล่าว (อุละมาอ์บางท่านมีความเห็นว่า จะมีการเป่าแตรมากกว่าสามครั้ง)
{6:73} และพระองค์คือ ผู้ที่ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินด้วยความจริง และวันที่พระองค์ตรัสว่า “จงเป็นขึ้น” แล้วมันก็จะเป็นขึ้น พระดํารัสของพระองค์คือความจริง และอํานาจทั้งหลายนั้นเป็นของพระองค์ในวันที่แตรถูกเป่า พระผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับและในสิ่งเปิดเผย และพระองค์คือพระผู้ทรงปรีชาญาณ พระผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
{18:99} และวันนั้นเราได้ปล่อยให้บางส่วนของพวกเขาปะทะกับอีกบางส่วน และแตรจะถูกเป่าขึ้น แล้วเราจะรวมพวกเขาทั้งหมด
{20:102} วันซึ่งแตรจะถูกเป่า และในวันนั้นเราจะเกณฑ์มวลอาชญากรมาชุมนุมด้วยดวงตาที่ฟกช้ำ
{23:101} ดังนั้นเมื่อแตรได้ถูกเป่าขึ้น ดังนั้นจะไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างพวกเขาในวันนั้น และพวกเขาจะไม่ไต่ถามซึ่งกันและกัน
{27:87} และ (จงรำลึกถึง) วันที่แตรจะถูกเป่าขึ้น ดังนั้นผู้ที่อยู่ในเหล่าชั้นฟ้าและผู้ที่อยู่ในแผ่นดินจะตื่นตระหนก เว้นแต่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทั้งหมดได้มาหาพระองค์ในสภาพผู้สวามิภักดิ์
{36:51} และแตรก็จะถูกเป่าขึ้น ทันใดนั้นพวกเขาจะออกจากหลุมฝังศพ แล้วพวกเขาก็รีบรุดไปยังพระเจ้าของพวกตน
{39:68} และแตรได้ถูกเป่าขึ้น แล้วบรรดาผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินจะล้มลงตาย เว้นแต่ผู้ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ แล้วแตรได้ถูกเป่าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แล้วพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนมองดู
{50:20} และแตรจะถูกเป่าขึ้น นั่นคือวันที่เคยตักเตือนให้ระวัง
{69:13} ครั้นเมื่อแตรถูกเป่าหนึ่งครั้ง
{69:14} แผ่นดินและเทือกเขาจะถูกยกขึ้น แล้วมันทั้งสองจะถูกกระแทกกันแตกกระจายเป็นผุยผง
{69:15} ในวันนั้นโลกาวินาศก็จะอุบัติขึ้น
{74:8} เมื่อใดที่แตรถูกเป่าขึ้น
{74:9} นั่นแหละ วันนั้น เป็นวันแห่งความยากลําบาก
{74:10} สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย
{78:18} วันที่แตรจะถูกเป่า แล้วพวกเธอก็จะมากันเป็นหมู่เหล่า
{78:19} และชั้นฟ้าจะถูกเปิดออกเป็นประตูหลายบาน
{78:20} และเทือกเขาจะถูกเคลื่อนออกไป แล้วก็กลายเป็นภาพลวงตา
{79:6} วันซึ่งการเป่าแตรครั้งแรกทำให้สั่นสะเทือน
{79:7} การเป่าแตรครั้งที่สองจะติดตามมา
{79:8} ในวันนั้นดวงจิตทั้งหลายจะตระหนก
{79:9} สายตาของพวกเขาจะละห้อย
{79:10} พวกเขาจะกล่าวว่า “พวกเราจะถูกให้กลับคืนสู่สภาพเดิมอีกกระนั้นหรือ?”
{79:11} “เมื่อเราได้กลายเป็นกระดูกที่ผุแล้วกระนั้นหรือ?”
{79:12} พวกเขากล่าวว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นการกลับคืนที่สูญเสีย”
{79:13} ความจริงมันเป็นเพียงเสียงกึกก้องครั้งเดียว
{79:14} แล้วเมื่อนั้นพวกเขาก็จะออกมายังที่ราบโล่ง
[สภาพของสรรพสิ่งทั้งหลายในขณะที่มีการเป่าแตรสังข์ ]
เมื่อแตรถูกเป่าครั้งแรก จักรวาลจะแตกสลาย สิ่งมีชีวิตมอดม้วยเกือบทั้งสิ้น
อัลกุรอานไม่ได้ระบุถึงนามอิสรอฟีล แต่ได้ระบุถึงการเป่าแตรสองครั้งดังกล่าว (อุละมาอ์บางท่านมีความเห็นว่า จะมีการเป่าแตรมากกว่าสามครั้ง)
{6:73} และพระองค์คือ ผู้ที่ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินด้วยความจริง และวันที่พระองค์ตรัสว่า “จงเป็นขึ้น” แล้วมันก็จะเป็นขึ้น พระดํารัสของพระองค์คือความจริง และอํานาจทั้งหลายนั้นเป็นของพระองค์ในวันที่แตรถูกเป่า พระผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับและในสิ่งเปิดเผย และพระองค์คือพระผู้ทรงปรีชาญาณ พระผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
{18:99} และวันนั้นเราได้ปล่อยให้บางส่วนของพวกเขาปะทะกับอีกบางส่วน และแตรจะถูกเป่าขึ้น แล้วเราจะรวมพวกเขาทั้งหมด
{20:102} วันซึ่งแตรจะถูกเป่า และในวันนั้นเราจะเกณฑ์มวลอาชญากรมาชุมนุมด้วยดวงตาที่ฟกช้ำ
{23:101} ดังนั้นเมื่อแตรได้ถูกเป่าขึ้น ดังนั้นจะไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างพวกเขาในวันนั้น และพวกเขาจะไม่ไต่ถามซึ่งกันและกัน
{27:87} และ (จงรำลึกถึง) วันที่แตรจะถูกเป่าขึ้น ดังนั้นผู้ที่อยู่ในเหล่าชั้นฟ้าและผู้ที่อยู่ในแผ่นดินจะตื่นตระหนก เว้นแต่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทั้งหมดได้มาหาพระองค์ในสภาพผู้สวามิภักดิ์
{36:51} และแตรก็จะถูกเป่าขึ้น ทันใดนั้นพวกเขาจะออกจากหลุมฝังศพ แล้วพวกเขาก็รีบรุดไปยังพระเจ้าของพวกตน
{39:68} และแตรได้ถูกเป่าขึ้น แล้วบรรดาผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินจะล้มลงตาย เว้นแต่ผู้ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ แล้วแตรได้ถูกเป่าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แล้วพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนมองดู
{50:20} และแตรจะถูกเป่าขึ้น นั่นคือวันที่เคยตักเตือนให้ระวัง
{69:13} ครั้นเมื่อแตรถูกเป่าหนึ่งครั้ง
{69:14} แผ่นดินและเทือกเขาจะถูกยกขึ้น แล้วมันทั้งสองจะถูกกระแทกกันแตกกระจายเป็นผุยผง
{69:15} ในวันนั้นโลกาวินาศก็จะอุบัติขึ้น
{74:8} เมื่อใดที่แตรถูกเป่าขึ้น
{74:9} นั่นแหละ วันนั้น เป็นวันแห่งความยากลําบาก
{74:10} สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย
{78:18} วันที่แตรจะถูกเป่า แล้วพวกเธอก็จะมากันเป็นหมู่เหล่า
{78:19} และชั้นฟ้าจะถูกเปิดออกเป็นประตูหลายบาน
{78:20} และเทือกเขาจะถูกเคลื่อนออกไป แล้วก็กลายเป็นภาพลวงตา
{79:6} วันซึ่งการเป่าแตรครั้งแรกทำให้สั่นสะเทือน
{79:7} การเป่าแตรครั้งที่สองจะติดตามมา
{79:8} ในวันนั้นดวงจิตทั้งหลายจะตระหนก
{79:9} สายตาของพวกเขาจะละห้อย
{79:10} พวกเขาจะกล่าวว่า “พวกเราจะถูกให้กลับคืนสู่สภาพเดิมอีกกระนั้นหรือ?”
{79:11} “เมื่อเราได้กลายเป็นกระดูกที่ผุแล้วกระนั้นหรือ?”
{79:12} พวกเขากล่าวว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นการกลับคืนที่สูญเสีย”
{79:13} ความจริงมันเป็นเพียงเสียงกึกก้องครั้งเดียว
{79:14} แล้วเมื่อนั้นพวกเขาก็จะออกมายังที่ราบโล่ง
[สภาพของสรรพสิ่งทั้งหลายในขณะที่มีการเป่าแตรสังข์ ]
1. อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
«فَتَوَلَّ عَنْهُمْ يَوْمَ يَدْعُو الدَّاعِ إِلَى شَيْءٍ نُكُرٍ، خُشَّعًا أَبْصَارُهُمْ يَخْرُجُونَ مِنَ الأجْدَاثِ كَأَنَّهُمْ جَرَادٌ مُنْتَشِرٌ، مُهْطِعِينَ إِلَى الدَّاعِ يَقُولُ الْكَافِرُونَ هَذَا يَوْمٌ عَسِرٌ»
ความว่า: “ดังนั้นเจ้า (มุหัมหมัด) จงผินหลังให้แก่พวกเขา วันซึ่งผู้เรียกร้อง (อิสรอฟีล) จะร้องเรียกไปสู่สิ่งที่น่ากลัวสยองขวัญ สายตาของพวกเขาจะลดต่ำลงขณะที่พวกเขาออกจากสุสานเสมือนหนึ่งพวกเขาเป็นตั๊กแตนที่บินว่อนรีบวิ่งไปยังผู้เรียกร้องพวกปฏิเสธศรัทธาจะกล่าวว่าวันนี้เป็นวันที่ลำบากยิ่ง”
(อัลเกาะมัร : 6-8)
2. อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
«وَنُفِخَ فِي الصُّورِ فَصَعِقَ مَنْ فِي السَّمَاوَاتِ وَمَنْ فِي الأرْضِ إِلا مَنْ شَاءَ اللَّهُ ثُمَّ نُفِخَ فِيهِ أُخْرَى فَإِذَا هُمْ قِيَامٌ يَنْظُرُونَ»
ความว่า: “และแตรสังข์ได้ถูกเป่าขึ้น แล้วบรรดาผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน จะล้มลงตายเว้นแต่ผู้ที่อัลลอฮฺประสงค์ จากนั้นสังข์ได้ถูกเป่าขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนมองดู”
(อัซซุมัร อายะฮฺที่ 68)
(อัซซุมัร อายะฮฺที่ 68)
3. อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
«وَيَوْمَ يُنْفَخُ فِي الصُّورِ فَفَزِعَ مَنْ فِي السَّمَاوَاتِ وَمَنْ فِي الأرْضِ إِلا مَنْ شَاءَ اللَّهُ وَكُلٌّ أَتَوْهُ دَاخِرِينَ»
ความว่า: “และจงรำลึกวันที่สังข์จะถูกเป่าขึ้นดังนั้นผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและผู้ที่อยู่ในแผ่นดินจะตื่นตระหนกเว้นแต่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทั้งหมดได้มาหาพระองค์ในสภาพผู้ถ่อมตน”
(อันนัมล์ อายะฮฺที่ 87)
**ระยะเวลาห่างระหว่างเป่าแตรสังข์ครั้งแรกกับการเป่าครั้งที่สอง**
จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
«مَا بَيْنَ النَّفْخَتَيْنِ أَرْبَعُونَ» قَالُوا : يَا أَبَا هُرَيْرَةَ أَرْبَعُونَ يَوْمًا ؟ قَالَ : أَبَيْتُ ، قَالُوا : أَرْبَعُونَ شَهْرًا ؟ قَالَ : أَبَيْتُ ، قَالُوا : أَرْبَعُونَ سَنَةً ؟ قَالَ : أَبَيْتُ. (متفق عليه)
ความว่า: “ระยะเวลาระหว่างการเป่าแตรสังข์ครั้งแรกกับครั้งที่สอง คือ 40"
-ผู้คนจึงถามอบูฮูร็อยเราะฮฺว่า โอ้ท่านอบูฮูร็อยเราะฮฺ 40 วันใช่ไหม?
-อบูฮูร็อยเราะฮฺกล่าวว่า ฉันปฏิเสธไม่ตอบ ผู้คนจึงถามท่านอีกว่า 40 เดือนเดือนใช่ไหม ?
*อบูฮูร็อยเราะฮฺกล่าวว่า ฉันปฏิเสธอีก ผู้คนจึงถามท่านอีกว่า 40ปี ใช่ไหม?
ท่านกล่าวว่า ฉันปฏิเสธอีกครั้ง"
-อบูฮูร็อยเราะฮฺกล่าวว่า ฉันปฏิเสธไม่ตอบ ผู้คนจึงถามท่านอีกว่า 40 เดือนเดือนใช่ไหม ?
*อบูฮูร็อยเราะฮฺกล่าวว่า ฉันปฏิเสธอีก ผู้คนจึงถามท่านอีกว่า 40ปี ใช่ไหม?
ท่านกล่าวว่า ฉันปฏิเสธอีกครั้ง"
(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลขหะดีษ 4935 ,มุสลิม หมายเลขหะดีษ 2955 สำนวนรายงานนี้เป็นของท่าน)
[เมื่อใดวันกิยามะฮฺจะบังเกิด]
1. จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า
«إِنَّ طَرْفَ صَاحِبِ الصُّورِ مُذْ وُكِّلَ بِهِ مُسْتَعِدٌّ يَنْظُرُ نَحْوَ الْعَرْشِ مَخَافَةَ أَنْ يُؤْمَرَ قَبْلَ أَنْ يَرْتَدَّ إِلَيْهِ طَرْفُهُ ، كَأَنَّ عَيْنَيْهِ كَوْكَبَانِ دُرِّيَّانِ» (أخرجه الحاكم)
ความว่า: “แท้จริงริมฝีปากของผู้มีหน้าที่เป่าแตรสังข์อยู่ในสภาพพร้อมเป่า นับตั้งแต่ท่านได้ถูกมอบหมายรับหน้าที่นี้โดยสายตาของท่านจะทอดมองยังบัลลังก์ของอัลลอฮฺอยู่ตลอด เนื่องจากเกรงว่าจะถูกบัญชาให้ทำการเป่าแตรสังข์ในขณะที่ท่านกระพริบตาชั่วขณะ ดวงตาทั้งสองของท่านมีประกายแววเสมือนดวงดาว”
(เป็นหะดีษที่เศาะฮีหฺ บันทึกโดย อัลหากิม หมายเลขหะดีษ 8676 โปรดดูหนังสือ อัสสิลสิละฮฺ อัศเศาะฮีหะฮฺ หมายเลขหะดีษ 1078)
2. จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
2. จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
«خَيْرُ يَوْمٍ طَلَعَتْ عَلَيْهِ الشَّمْسُ يَوْمُ الْجُمُعَةِ ، فِيهِ خُلِقَ آدَمُ ، وَفِيهِ أُدْخِلَ الْجَنَّةَ ، وَفِيهِ أُخْرِجَ مِنْهَا ، وَلاَ تَقُومُ السَّاعَةُ إِلَّا فِي يَوْمِ الْجُمُعَةِ» (أخرجه مسلم)
ความว่า: “วันที่ประเสิรฐที่สุดที่ดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมา คือวันศุกร์ เพราะเป็นวันที่นบีอาดัมถูกสร้างขึ้นมาในวันนั้นนบีอาดัมถูกนำเข้าสวนสรรค์ อีกทั้งเป็นวันที่ท่านถูกขับออกจากสวรรค์ด้วยและวันกียามะฮฺจะไม่บังเกิดขึ้นนอกจากในวันศุกร์เท่านั้น”
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ 854)
ที่มา: มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์
ผู้แปล : อันวา สะอุ
https://islamhouse.com/
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ 854)
ที่มา: มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์
ผู้แปล : อันวา สะอุ
https://islamhouse.com/
แหล่งที่มา : มหัศจรรย์อัลกุรอ่าน
#มหัศจรรย์อัลกรุอาน_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น