มลาอิกะฮ์
ไม่มีความคิดที่จะเลือกทำอะไรหรือทำสิ่งใดโดยลำพังได้ เพราะมลาอิกะฮ์มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮ์เพียงอย่างเดียว มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นมะลาอิกะฮฺในสภาพเดิมได้ เว้นแต่บรรดานบีเท่านั้น เพราะมลาอิกะฮ์เป็นร่างที่ละเอียดอ่อน เหมือนที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นลมได้ ทั้ง ๆ ที่ลมสามารถพัดใบไม้ไหวได้ แต่มนุษย์สามารถมองเห็นมะลาอิกะฮฺได้ในลักษณะจำแลง กล่าวคือ เมื่อมลาอิกะฮ์ได้จำแลงร่างให้เป็นมนุษย์
มะลาอิกะฮฺ 10 ท่าน ที่มุสลิมทุกคนควรทราบชื่อ
- ญิบรีล (นามูส, รูหูลกุดุส และรูหุลอะมีน) เป็นผู้นำในบรรดามะลาอิกะฮฺทั้งหลาย และเป็นผู้นำวะฮฺยูจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.)ไปยังบรรดานบีและเราะซูล
- มีกาอีล เป็นผู้ควบคุมระบบสุริยจักรวาล และนำปัจจัยยังชีพ (ริชกี) มาให้แก่บรรดามัคลูกทั้งหลาย
- อิซรออีล (มะลิกุลเมาตฺ) ทำหน้าที่ ถอดวิญญาณมัคลูกตามเวลาที่กำหนดไว้
- อิสรอฟีล เป่าแตร(ศูรฺ) เมื่อถึงกำหนดวันสิ้นโลก (วันกิยามะฮฺ) และวันฟื้นคืนชีพ
- รอกีบ ผู้บันทึกอันมีเกียรติ อยู่ประจำข้างซ้ายและข้างขวาของมนุษย์ บันทึกความดี ความชั่วของมนุษย์
- อะตีด ผู้บันทึกอันมีเกียรติ อยู่ประจำข้างซ้ายและข้างขวาของมนุษย์ บันทึกความดี ความชั่วของมนุษย์
- มุนกัรฺ ทำหน้าที่ สอบสวนคนตายในสุสาน (กุโบรฺ)
- นะกีรฺ ทำหน้าที่ สอบสวนคนตายในสุสาน
- ริฎวาน คอยดูแลและเฝ้าประตูสวรรค์
- มาลิก (ซะบานียะฮฺ) คอยดูแลและเฝ้าประตูนรก
นอกจากนี้อัลกุรอานระบุอีกว่า มีมลาอิกะฮ์จำนวนหนึ่งที่แบกหามพระบัลลังก์ของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ซึ่งอัลกุรอานไม่ได้ระบุว่าในปัจจุบันมีจำนวนเท่าไหร่ แต่ระบุว่า ในวันอาคิเราะฮฺ มะลาอิกะฮฺผู้แบกบัลลังก์มีจำนวน 8 ตน นอกจากนั้นยังมีมลาอิกะฮ์อีกมากมายที่ห้อมล้อมพระบัลลังก์ คอยสรรเสริญสดุดีพระองค์และวิงวอนขอให้อัลลอฮฺทรงอภัยให้แก่บรรดาศรัทธาชนผู้สำนึกผิด
อัลกุรอานได้เล่าเรื่องของมะลาอิกะฮฺที่ลงมาบอกข่าวดีแก่นบีอิบรอฮีม นบีซะกะรียา และมัรยัมมารดานบีอีซา และมลาอิกะฮ์ที่มาบอกให้ลูฏออกจากเมืองก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น เนื่องจากว่าเมืองโซโดมกำลังจะถูกทำลาย
นอกจากนี้อัลลอฮฺยังได้ทรงส่งมะลาอิกะฮฺลงมาในนครบาบิโลน เพื่อเป็นข้อทดสอบสำหรับมนุษย์ในเรื่องไสยศาสตร์
การศรัทธาต่อบรรดามลาอิกะฮ์
อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงสร้างมลาอิกะฮ์ จากรัศมี ปฏิบัติและเชื่อฟังตามคำบัญชาของพระองค์ ภักดี และซื่อสัตย์ ต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) เพียงพระองค์เดียว อัลลอฮ (ซ.บ.) ทรงตรัสว่า
*(20) وَلَهُ مَن فِي السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ وَمَنْ عِندَهُ لَا يَسْتَكْبِرُونَ عَنْ عِبَادَتِهِ وَلَا يَسْتَحْسِرُونَ (19)* يُسَبِّحُونَ اللَّيْلَ وَالنَّهَارَ لَا يَفْتُرُونَ
"และผู้ที่อยู่ ณ ที่พระองค์ (มลาอิกะฮ์) พวกเขาจะไม่ลำพองตนในการเคารพภักดีพระองค์ และพวกเขาจะไม่เหนื่อยหน่าย พวกเขาจะแซ่ซร้องสดุดีพระองค์ ในเวลากลางคืนและเวลากลางวัน โดยไม่ขาดระยะ" ( อัลอันบิยาอ์ 19- 20)
มลาอิกะฮ์ มีจำนวนมากเท่าไหร่นั้น ไม่มีใครรู้ได้นอกจากอัลลอฮ์ เท่านั้น ได้มีหลักฐานกล่าวไว้ในหนังสือหะดีษบุคอรี-มุสลิม จากหะดีษของท่านอนัสร่อดิยัลลอฮุอันฮุ ในประวัติของเมี๊ยะรอจ (การเข้าเฝ้าอัลลอฮ์ระหว่างบัยติ้ลมัคดิษและบัยติ้ลอิซซะฮ์ )
(( أن النبي صلى الله عليه وسلم رفع له البيت المعمور في السماء يصلي فيه كل يوم سبعون ألف ملك إذا خرجوا لم يعودوا إليه آخر ماعليهم ))
ท่านนะบี (ซ.ล.) ถูกเชิญขึ้นสู่บัยตุ้ลมะมูร ((กะอฺบะฮฺ ที่มวลมลาอิกะฮ์ใช้ตอวาฟ )) ในชั้นฟ้า ทุกวันมีมลาอิกะฮิ 70,000 ท่านทำการละหมาด เมื่อพวกเขาได้ออกจากที่นั้นพวกเขาจะไม่หวนคืนกลับมาอีกนั้นถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เป็นวาญิบเหนือพวกเขา
การศรัทธาต่อบรรดามลาอิกะฮ์ประกอบไปด้วย 4 ประการ
๑. ศรัทธาถึงการมีอยู่ ของมลาอิกะฮ์
๒. ศรัทธาต่อมลาอิกะฮ์ ที่ได้บอกไว้ในอัลกุรอานและฮะดิษ และที่ไม่ได้กล่าวไว้
๓. ศรัทธาต่อบรรดามลาอิกะฮ์ ที่ทราบถึงคุณลักษณะ และที่ไม่ทราบ เช่น ลักษณะท่านญิบรีล
قد أخبر النبي صلى الله عليه وسلم أنه رأى جبريل - عليه السلام - على صفته التي خلق عليها وله ستمائة جناح قد سد الأفق .
ท่านนะบี (ซ.ล.) ได้เล่าว่าแท้จริงท่านได้เห็น ญิบรีล อะลัยฮิสลาม ในลักษณะหนึ่งซึ่งถูกสร้างมาในลักษณะนั้นมี 600 ปีก จรดขอบฟ้า
มลาอิกะฮ์ สามารถจำแลงร่างตามคำสั่งของอัลลอฮ์ เมื่อครั้งที่พระองค์ได้ส่งญิบรีลไปยังพระนางมัรยัม โดยจำแลงร่างเหมือนมนุษย์ และในขณะที่มลาอิกะฮ์ได้มาหาท่านนะบี (ซ.ล.) ในขณะนั่งอยู่ร่วมกับบรรดาศอฮาบะฮ์ของท่าน มีผู้ชายแข็งแรงใส่เสื้อสีขาวสะอาด ผมสีดำ ไม่มีร่องรอยของการเดินทาง ในหมู่ศอฮาบะฮ์ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ชายผู้นั้นได้นั่งลงข้างท่านนะบี (ซ.ล.) โดยเอาหัวเข่าทั้งสองชิดหัวเข่าของท่าน และวางฝ่ามือทั้งสองไว้บนน่องของท่าน ชายผู้นั้นได้ถามท่านเกี่ยวกับ อัล อิสลาม การศรัทธา จริยธรรม วันกิยามะฮ์ และสัญญาณวันกิยามะฮ์ ท่านนะบี (ซ.ล.) ได้ตอบคำถามชายผู้นั้นไป หลังจากนั้นท่านนะบี (ซ.ล.) ได้ถามบรรดาศอฮาบะฮ์ว่า รู้ไหมชายผู้นั้นคือใคร บรรดาศอฮาบะฮ์ตอบว่า อัลลอฮ์รู้และเราะซูลของอัลลฮ์เท่านั้นที่รู้ ท่านะบี (ซ.ล.) จึงตอบว่า นี่คือ ญิบรีล (มลาอิกะฮ์) เขาได้มาหาและสอนเรื่องศาสนาให้กับพวกท่าน
(รายงานโดย มุสลิม)
เช่นเดียวกันเหล่าบรรดามลาอิกะฮ์ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงส่งไปยังท่านนะบีอิบรอฮีม และท่านนะบีลูต อลัยฮิสลาม ในลักษณะเป็นผู้ชาย
เช่นเดียวกันเหล่าบรรดามลาอิกะฮ์ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงส่งไปยังท่านนะบีอิบรอฮีม และท่านนะบีลูต อลัยฮิสลาม ในลักษณะเป็นผู้ชาย
๔. ศรัทธาต่อมลาอิกะฮ์ ในหน้าที่ และคำสั่งของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) เช่น การกล่าวสรรเสริญสดุดี และการภักดีต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทั้งกลางวัน กลางคืน
#ประวัติศาสตร์อิสลาม_Islamic_Society_Online
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น