โทษของไสยศาสตร์
(แปลเรียบเรียง อับดุลบารีย์ นาปาเลน)
وَمَا هُم بِضَارِّينَ بِهِ مِنْ أَحَدٍ إِلَّا بِإِذْنِ اللَّهِ
"และพวกเขาไม่อาจทำให้สิ่งนั้นเป็นอันตรายแก่ผู้ใดได้ นอกจากด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺ"
ไสยศาสตร์มีสองชนิด
ชนิดเเรก คือ ไสยศาสตร์ที่มีผลกระทบ เช่นมีผลกระทบให้เกิดความเจ็บปวด หรือให้คนตายได้ หรืออื่นๆ
ชนิดที่สอง คือ ไสยศาสตร์ลวงตา เช่นการหลอกให้ผู้คนได้เห็นการเสกไม้ให้เป็นงู หรือเห็นการตัดคอให้ขาดและสามารถต่อกลับได้ หรือเห็นคนกินเศษแก้วหรือเอามีดมากรีดเนื้อโดยไม่เกิดอันตรายใดๆ
فَإِذَا حِبَالُهُمْ وَعِصِيُّهُمْ يُخَيَّلُ إِلَيْهِ مِن سِحْرِهِمْ أَنَّهَا تَسْعَىٰ
" ..ณ บัดนั้น เชือกและไม้เท้าของพวกเขาดูประหนึ่งว่ามันเลื้อยคลานไปมาเพราะเล่ห์กลของพวกเขา"
(ฏอฮา - Aya 66)
แก่นแท้ของไสยศาสตร์ ก็เพื่อการขอความช่วยหรือจากบรรดาญิน (ผี) และชัยฏอน เพื่อให้พวกเขาช่วยกระทำสิ่งต่างๆ เเละพวกชัยฏอนเหล่านั้นจะช่วยได้ก็ต่อเมื่อผู้ทำไสยศาสตร์นั้นต้องปฏิเสธศรัทธา หรือด้วยการทำชีริกต่ออัลลอฮ์ ดั้งนั้น บรรดานักไสยศาสตร์ทุกคนจึงมีความสัมพันธ์อย่างเหนียวแน่นต่อบรรดาชัยฏอน
وَاتَّبَعُوا مَا تَتْلُو الشَّيَاطِينُ عَلَىٰ مُلْكِ سُلَيْمَانَ ۖ وَمَا كَفَرَ سُلَيْمَانُ وَلَٰكِنَّ الشَّيَاطِينَ كَفَرُوا يُعَلِّمُونَ النَّاسَ السِّحْرَ...
"และพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่บรรดาชัยฏอน ในสมัยสุลัยมานอ่านให้ฟัง และสุลัยมานหาได้ปฏิเสธการศรัทธาไม่ แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธการศรัทธา โดยสอนประชาชนซึ่งวิชาไสยศาสตร์"
ด้วยเหตุนี้ นักไสยศาสตร์ และการเรียนไสยศาสตร์จึงตกจากศาสนาอิสลาม และต้องลงโทษด้วยการประหารชีวิตสถานเดียว อันเนื่องจากการที่พวกเขาได้ก่อความเสื่อมเสียในแผ่นดินด้วยทำร้ายรังเเก่ต่อบรรดาปวงบ่าวของอัลลอฮ์
ท่านนบี ได้กล่าวว่า
" حَدُّ السَّاحِرِ ضَرْبَةٌ بِالسَّيْفِ " "โทษของนักไสยศาสตร์คือการประหารด้วยดาบ"
(รายงานโดยติรมีซีย์ / ๑๔๖๐)
อัลลอฮ์ได้ส่งมะลักสองท่านจากฟากฟ้า เพื่อเป็นการทดสอบผู้คนเกี่ยวกับไสยศาสตร์ ซึ่งสามารถทำให้คนแตกแยกกัน และทั้งสองจะไม่สอนความรู้นี้ก่อนที่จะบอกว่า พวกเราคือฟิตนะห์
وَمَا يُعَلِّمَانِ مِنْ أَحَدٍ حَتَّىٰ يَقُولَا إِنَّمَا نَحْنُ فِتْنَةٌ فَلَا تَكْفُرْ ۖ فَيَتَعَلَّمُونَ مِنْهُمَا مَا يُفَرِّقُونَ بِهِ بَيْنَ الْمَرْءِ وَزَوْجِهِ ۚ
"และเขาทั้งสองจะไม่สอนให้แก่ผู้ใดจนกว่าจะกล่าวว่า แท้จริง เราเพียงเป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ดังนั้นท่านจงอย่าปฏิเสธการศรัทธาเลย แล้วเขาเหล่านั้นก็ศึกษาจากเขาทั้งสอง สิ่งที่พวกเขาจะใช้มันยังความแตกแยกระหว่างบุคคลกับภรรยาของเขา..."
การทำไสยศาสตร์จึงเป็นการแลกเปลี่ยนเอาผลประโยชน์ในโลกนี้ด้วยกับนรกในโลกหน้า
" และพวกเขาก็ร่ำเรียนสิ่งที่เป็นโทษแก่พวกเขา และมิใช่เป็นคุณแก่พวกเขา และแท้จริงนั้นพวกเขารู้แล้วว่าแน่นอนผู้ที่ซื้อมันไว้นั้น ในปรโลกก็ย่อมไม่มีส่วนได้ใดๆ และแน่นอนเป็นสิ่งที่ชั่วช้าจริง ๆ ที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น หากพวกเขารู้"
(อัลบากอเราะหฺ / ๑๐๒)
จากบรรดานักไสยศาสตร์ได้ตั้งใจไช้เวทมนต์อันนี้เพื่อรังแกต่อผู้คน หรือให้เกิดปัญหาต่างๆ เพื่อที่จะให้ผู้คนเหล่านั้นมาขอช่วยเหลือจากเขา และได้กินเงินทองของผู้คนเหล่านั้นอย่างอธรรม ดังนั้น การงานของนักไสยศาสต์จึงเป็นการงานที่เลวร้าย
فَلَمَّا أَلْقَوْا قَالَ مُوسَىٰ مَا جِئْتُم بِهِ السِّحْرُ ۖ إِنَّ اللَّهَ سَيُبْطِلُهُ ۖ إِنَّ اللَّهَ لَا يُصْلِحُ عَمَلَ الْمُفْسِدِينَ
"เมื่อพวกเขาได้โยนไปแล้ว มูซาได้กล่าวว่า “สิ่งที่พวกท่านนำมานั้นคือวิทยากล แท้จริงอัลลอฮ์จะทรงทำลายมัน แท้จริงอัลลอฮ์จะทรงทำลายมัน แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงทำให้การงานของบรรดาผู้บ่อนทำลายดีขึ้น”
บรรดานักไสยศาสตร์จะไม่ประสบความสำเร็จ และต้องเจอกับความพินาศในที่สุด
وَلَا يُفْلِحُ السَّاحِرُ حَيْثُ أَتَىٰ
“และนักไสยศาสตร์นั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าเขาจะมาจากทางไหนก็ตาม”
(ฏอฮา - Aya 69)
การป้องกันเเละการเยียวยารักษาก็มีสองชนิด
♦ ชนิดเเรก คือการรักษาไสยศาสต์ด้วยกับไสยศาสตร์ด้วยกัน
ชนิดนี้คือชีริก และเป็นสิ่งที่ต้องห้าม เพราะเป็นการงานของชัยฏอน และเหตุเพราะคนที่จะรักษาต้องไปกราบหรือถวาย หรือทำตามชัยฏอนตามที่มันชอบจึงจะเกิดผลได้ และถ้าหากเขาผู้นั้นได้ปฎิเสธศรัทธาแล้ว ชัยฏอนจึงจะช่วยเหลือ เช่น การเหยีดหยามอัลกุรอ่าน หรือทำไปทิ้งในสิ่งสกปรก หรืออื่นๆ (วัลอียาซุบิลลาฮ)
ด้วยเหตุนี้ท่านนบี ได้ห้ามมิให้ผู้คนไปหาพวกเขา
"บุคคลใดที่มาหาหมอดู หรือหมอทำนาย และเชื่อในสิ่งที่เขาพูด ถือว่าเขาได้ปฏิเสธสิ่งที่ถูกประทานมายังท่านนบีมุหัมมัด”
(บันทึกโดยอบูดาวูด, ติรฺมิซีย์, นะสาอีย์ และอิบนุมาญะฮฺ, เชคอัลบานีย์ระบุว่าเป็นหะดีษเศาะหี้หฺ)
ท่านนบี ได้กล่าวว่า
"ผู้ใดที่ได้ทำไสยศาสตร์ แน่นอนเขาได้ทำชีริก และผู้ใดที่ไปยึดติดต่อสิ่งใด เขาก็จะถูกให้ไปยึดติดต่อสิ่งนั้น (โดยมีความหวังเเละความกลัวต่อสิ่งนั้น)"
(รายงานโดยอันนาซาอีย์ / ๔๐๗๙)
♦ ชนิดที่สอง คือ การปัดเป่าด้วยกับอัลกุรอ่าน
การปัดเป่าด้วยกับอัลกุรอ่าน และดุอาอฺ์ที่ถูกต้อง หรือเยียวยาด้วยกับยาที่เป็นประโยชน์ เพราะอัลลอฮ์ไม่ได้ประทานโรคร้ายมานอกจากพระองค์ก็จะประทานยารักษามาให้ด้วย
การปัดเป่าด้วยอัลกุรอ่าน เเละซุนนะห์ เช่น
- อ่านอายัตอัลกุรฺซีย์
- อัลมูเอาวีซะตัยนฺ คือซูเราะหฺ อัล-ฟะลัก เเละอัน-นาส
- โองการสุดท้ายของอัลบากอเราะฮ์
- อ่านซูเราะหฺอับบากอเราะฮ์
- อัซก้ารฺเช้าเย็น
- หรือดุอาอ์ที่ท่านนบี ได้สอน
" أَعُوذُ بِكَلِمَاتِ اللَّهِ التَّامَّةِ، مِنْ كُلِّ شَيْطَانٍ وَهَامَّةٍ، وَمِنْ كُلِّ عَيْنٍ لاَمَّةٍ "
"ฉันขอความด้วยกับพระดำรัสของอัลลอฮ์ อันสมบูรณ์ ให้พ้นจากชัยฏอนมารร้าย และสัตว์ร้าย (เชื้อโรค) ทุกชนิด และให้พ้นจากทุกๆ อันตรายของตาอิจฉาริษยา"
(รายงานโดยบุคอรีย์ )
และการปกป้องย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ
ขอจากอัลลอฮ์ ให้ทรงคุ้มครองพวกเราจากสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง
وصلى الله على نبينا محمد وعلى آله وصحبه وسلم
ถอดความมาจาก http://miraath.net/sounds.php?cat=639&id=3622
นะอูซุบิลลาฮฺฮิมินซาลิก
ที่มา : มหัศจรรย์อัลกุรอ่าน
Islamic Society Online
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น